สอนคนอื่นเช่นไร พึงทำตนเช่นนั้น
|
||||
ถ้าสอนผู้อื่นฉันใด พึงทำตนฉันนั้น ผู้ฝึกตนดีแล้ว ควรฝึกผู้อื่น ได้ยินว่า ตนแลฝึกได้ยาก. (พุทฺธ) ขุ.ธ. ๒๕/๓๖. |
สำหรับผู้ที่มีหน้าที่หรือมีความรับผิดชอบต้องคอยบอกคอยสอน คอยแนะนำพร่ำสอนผู้อื่นอยู่เป็นประจำ หรือแม้แต่ไม่ได้มีหน้าที่เป็นกิจลักษณ์ หากแต่ว่าในชีวิตของเรานั้น คงต้องมีบ้างบางโอกาสที่ต้องให้คำแนะนำผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นครูอาจารย์ที่สอนอยู่ในโรงเรียนหรือในมหาวิทยาลัยก็ดี หรือจะเป็นพระภิกษุสามเณรที่ต้องคอยเทศน์คอยสอนฆราวาสญาติโยมก็ดี หรือจะเป็นพ่อเป็นแม่ที่ต้องคอยแนะนำพร่ำสอนบุตรธิดาก็ดี ย่อมหนีไม่พ้นที่จะต้องสอนผู้อื่นอยู่เป็นนิตย์
หลักง่าย ๆ ที่จะทำให้สอนผู้อื่นแล้วได้ผลก็คือ จะบอกจะสอนอะไรเขา เราเองต้องทำให้ได้เช่นนั้นก่อน จะสอนให้คนอื่นรู้จักให้ทาน ตัวเราเองต้องเป็นคนจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ทำบุญทำทานอยู่เป็นประจำ ไม่ตระหนี่ถี่เหนียว จะสอนให้คนอื่นรู้จักรักษาศีล ตัวเราเองก็ต้องมั่นคงดำรงมั่นอยู่ในศีลในธรรม จะสอนคนอื่นให้รู้จักเจริญภาวนา ตัวเองก็ต้องหมั่นเจริญภาวนาด้วยเช่นกัน คือทำให้เขาดูให้เขาเห็นเป็นตัวอย่าง ว่าสิ่งที่เราสอนเขาแนะนำเขาไปนั้น เราเองก็ทำอยู่ไม่ได้ขาด ไม่ใช่ว่าสอนเขาไปอย่าง ตนเองกลับทำอีกอย่าง สอนให้เขาให้ทาน ตนเองตระหนี่ถี่เหนียว สอนให้เขารักษาศีล ตนเองละเมิดศีลอยู่เป็นนิตย์ สอนให้เขารู้จักเจริญภาวนา ตนเองไม่นำพาแม้แต่น้อย แบบนี้ สอนใครใครเขาจะเชื่อ ใครเขาจะฟัง
เพราะฉะนั้นแล้ว สอนคนอื่นเช่นไร ก็พึงทำตนเช่นนั้น ฝึกตนเองให้ได้ก่อนแล้วค่อยไปสอนคนอื่นเถิด เพราะการสอนตน การฝึกตนเองนั้น ยากยิ่งนัก ไม่มีใครในโลกว่ายากสอนยากเท่ากับตัวเราเองอีกแล้ว เชื่อสิ.