เอลเดอร์ไม้กายาสิทธิ์มฤตยู โดย I AM THOR
แต่งโดย I AM THOR เนื้อหาและชื่อไม้กายาสิทธ์บางตอนผมขออิงมาจาก หนังเรื่อง แฮรี่ พอตเตอร์ นะครับ เรื่องนี้แต่งขึ้นก็เพื่อสาวกของแฮรี่ พอตเตอร์เป็นพิเศษ
เรามาอ่านกันดีกว่า เรื่องราวของ ไม้กายาสิทธ์เอลเดอร์ว่ามันถูกสร้างขึ้นมาจากใหนและมีใครที่ออกตามหาไม้กายาสิทธ์ที่สาบสูญนี้กันบ้าง
มี 5 บท จาก 35 บทที่เอามาให้อ่าน
บทที่ 1 นักต้อนผู้ชั่วร้าย
บทที่ 2 เด็กกำพร้าผู้น่าสงสาร
บทที่ 3 12 ปี ต่อมา
บทที่ 4 ของขวัญจากมิลีเซ็นส์
บทที่ 5 หญิงชรา
นานมาแล้วหลายร้อยปีไม้กายาสิทธิ์เอลเดอร์ได้ถือกำเนิดขึ้นอย่างไม่ตั้งใจโดยพ่อมดคนหนึ่งได้ขอยมทูตให้สร้างไม้กายาสิทธิ์ที่มีพลังเหนือไม้กายาสิทธิ์ทุกอันในโลกยมทูตได้ตกลงสร้างไม้กายาสิทธิ์ที่ทำจากกิ่งต้นเอลเดอร์ริมแม่น้ำให้กับพ่อมดตนนั้นไปต่อจากนั้นมันได้มอบความตายให้ผู้คนมากมายมันจึงเป็นที่กล่าวขานว่าเป็นไม้กายาสิทธิ์มฤตยูที่ใครหลายคนหวาดกลัวและอยากครอบครอง เวลาต่อมามีพ่อมดคนหนึ่งได้ใช้ไม้กายาสิทธิ์เอลเดอร์ทำลายโรงเรียนเวทย์มนต์และนักเรียนเป็นจำนวนมาก ในศึกครั้งนั้นมันเป็นจดจบของไม้กายาสิทธิ์เอลเดอร์เมื่อผู้ครอบครองคนใหม่ไม่ประสงค์ที่จะใช้มันอีกเขาได้ทำลายไม้กายาสิทธิ์เอลเดอร์ลงโดยการหักและโยนมันลงแม่น้ำแต่ไม้กายาสิทธิ์ที่เรืองฤทธิ์หรือจะทำลายได้โดยการหักมันเชื่อมต่อกันอีกครั้งด้วยพลังแห่งความตายและวิญญาณชั่วร้ายที่อยู่ในไม้กายาสิทธิ์ทำให้มันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอีกครั้งแต่ไม้กายาสิทธิ์ถูกกลืนด้วยสายน้ำเบื้อล่างและหายไปตลอดกาลเป็นเวลาหลายปีที่ตำนานของมันยังคงถูกเล่าขานต่อกันมาโดยผู้ที่เชื้อว่ามันไม่ถูกทำลายและยังคงมีอยู่จริงที่ใหนสักแห่ง และมันเป็นที่มาของการตามหาและต่อสู้เพื่อที่จะได้มันมา
*เสียงโฮดังมาจากท้ายตรอก แบล็คเบิร์น เสียงตะโกนจากพวกนักต้อนว่า . อย่าให้มันหนีไปได้ สิ้นเสียงตะโกนของพวกนักต้อนก็มีเสียงดังคล้ายระเบิดดังมาเป็นระยะชาวเมืองต่างวิ่งหนีกันอย่างชุลมุนเหตุเพราะพวกนักต้อนใช้ไม้กายาสิทธ์ยิงคาถาใส่ใครบางคนที่กำลังวิ่งมาทางร้านขายสัตว์วิเศษ จึงทำให้ข้าวของเสียหาย ทันใดนั้นมีชายคนหนึ่งวิ่งตัดออกมาจากกลุ่มคนที่วิ่งหนีกันอย่างแตกตื่น ข้างร้านขายสัตว์เลี้ยงวิเศษของพ่อมด แม่มด นั้นมีถังไม้ขนาดใหญ่วางอยู่ข้างร้าน มิลีเซ็นส์ได้หลบอยู่ตรงนั้นเธอแอบมองเห็นชายคนนั้นวิ่งตรงเข้ามาหาเธอ ชายคนนั้นสวมผ้าคุมเก่าๆ และในอ้อมกอดของชายคนนั้นได้อุ้มเด็กทารกไว้ในอ้อมแขนนั้นเองชายคนนั้นยื่นเด็กทารกให้มิลีเซ็นส์และกล่องไม้เก่าๆ 1 กล่อง พร้อมขอร้องให้เธอรับเด็กนี้ไว้ มิลีเซ็นส์ตกใจอยู่สักพัก มีเสียงพวกนักต้อนตะโกนมา ว่าหามันให้เจอ อย่าให้มันหนีไปได้ มิลีเซ็นส์จึงรับเด็กทารกจากชายดังกล่าว ชายคนนั้นบอกกับเด็กว่า พ่อรักลูกนะ อริส และชายคนนั้นก็วิ่งไปจากมิลีเซ็นท์เขาวิ่งไปทางซอยที่เป็นทางไปสู่แม่น้ำ และทันใดนั้นนักต้อนก็เห็นชายคนนั้น พวกมันจึงรีบวิ่งผ่านร้านขายสัตว์วิเศษตรงที่มิลีเซ็นส์ซ่อนอยู่ไป มิลีเซ็นท์จึงแอบตามไปดูเด็กทารกนั้นนอนหลับสนิดคงจะเป็นเพราะไม่สบายชายคนนั้นหยุดวิ่งเขายืนนิ่งที่ริมแม่น้ำพวกนักต้อนวิ่งไปถึง วีนัทแบทเชอร์เขาเป็นหัวหน้ากลุ่มนักต้อน จึงหัวเราะขึ้นอย่างอารมณ์ดี 555+ แกหมดทางหนีแล้วสินะ ทอม ส่งมันมาให้ฉัน วีนัทแบทเชอร์ กล่าวชายคนนั้นกล่าวตอบแบบกล้าหาญว่า แกไม่มีวันได้มันไปหรอก ไม่มีวัน เขายิ้มแบบภูมิใจนิดๆ ทันใดนั้น
วีนัทแบทเชอร์ ชักไม้กายาสิทธ์ขึ้นมาและเสกคาถากรีดแทง ใส่ชายคนนั้น พวกลูกน้องในกลุ่มนักต้อนต่างส่งเสียงเฮฮา ชายคนนั้นดิ้นอย่างทรมารเพราะเขาไม่มีไม้กายาสิทธ์ไว้ต่อสู้เลย พวกนักต้อนค้นตัวของชายคนนั้นแต่ไม่พบกับของที่ตามหาลูกน้องคนหนึ่งพูดขึ้นว่า ไม่ได้อยู่ที่มันครับนาย เขาคุกเข่าและยิ้มแบบแหยๆและพูดเสียงดังว่าแกไม่มีวันได้มันไป ไม่มีวัน ไม่มีวัน วีนัทแบทเชอร์ โมโหอย่างสุดขีดเขาจึงเสกคาถา อะวาดา เคดาฟรา
คาถา พิฆาต ลําแสงพิฆาตสีเขียว ประทะกับร่างของชายคนนั้นและร่างที่ไร้วิญญาณของชายคนนั้นกระเด็นตกลงแม่น้ำและจมหายไปพวกนักต้อนจึงเดินข้ามสะพานออกจากเมืองไป มิลีเซ็นส์ยังตกใจและทำอะไรไม่ถูกเธอเดินอุ้มเด็กทารกและรีบกลับเข้าไปในเมืองเธอรีบตรงไปที่บ้านของ คามิลา เพื่อนของเธอ เธอเดินผ่าน ตรอกแบล็คเบิร์นไปยังซอยแยกด้านซ้ายของตรอกเธอไปถึงบ้านของ คามิลา เธอรีบเคาะประตูสักพัก คามิลาเดินมาเปิดประตู มิลีเซ็นส์ดีใจและรีบเข้าไปในบ้านของคามิลา คามิลาจึงถามว่า *มิลีเซ็นส์ เธอหนีอะไรมา *มิลีเซ็นส์ตอบ คือ คือ ฉะฉะฉันหนีปะปล่าวๆ แล้วเธออุ้มอะไรมา คามิลา ถาม มิลิเซ็นส์บอกว่า ทารก เป็นเด็กผู้หญิงผิวขาว คามิลา ทำหน้าตกใจและถามมิลีเซ็นส์ว่าไปเอามาจากใหน มิลีเซ็นส์บ่นพรำๆว่าพวกมันฆ่าเค้า คามิลาถามว่าใครจะฆ่าใคร พ่อของทารกนี่มิลีเซ็นส์ตอบ คามิลาตกใจ ต่อจากนั้นมิลีเซ็นส์จึงเล่าเรื่องทุกอย่างให้คามิลาฟังทั้งหมด
คามิลา จึงถามมิลีเซ็นส์ว่าและเธอจะทำยังไงกับเด็กคนนี้ มิลีเซ็นส์จึงตอบว่าฉันคงต้องเลี้ยงเด็กคนนี้เธอมีชื่อนะเธอชื่อ อริส พ่อของเธอชายคนนั้นเขาเรียกเธอ ทันใดนั้นมิลีเซ็นส์นึกขึ้นได้จึงหยิบกล่องไม้ขึ้นมาดูว่ามีอะไรในกล่องเธอเปิดออกดูเธอรู้สึกแปลกใจมากเธอพบว่ามีไม้กายาสิทธ์ที่มีเนื้อไม้สีแดงแปลกตาอยู่เธอกับคามิลายังคงอึ้งในสิ่งที่พวกเธอทั้งคู่ได้เห็นคามิลารีบวิ่งไปหาหนังสือเก่ามาเล่มหนึ่งเธอหามันอยู่นานเธอเจอมันที่ใต้ตู้เธอนำมันมาเปิดดูมันเป็นหนังสือนิทานมันบรรยายถึงไม้กายาสิทธ์ที่มีเนื้อไม้สีแดงว่าเป็นไม้ที่ทรงพลังจาก หนึ่งใน สามไม้ที่ทรงพลังที่สุดในโลก ไม้กายาสิทธ์เอลเดอร์ ไม้กายาสิทธ์เดทธอร์ และไม้กายาสิทธ์เรดเมเปิล ไม้ทั้ง 3 นี้ไม่มีแกนเวทย์มนต์ หนังสือบรรยายถึง คุณสมบัติเฉพาะของไม้กายาสิทธ์นี้ว่าทรงพลังในการรักษาผู้ที่โดนคำสาปได้ดีที่สุด มิลีเซ็นส์กล่าว พระเจ้าพวกมันตามหาสิ่งนี้
คามิลาถาม ใคร. พวกนักต้อนใช่มั้ย มิลีเซ็นส์ ใช่ มันฆ่าเค้าเพราะต้องการสิ่งนี้
คามิลาถาม แล้วทีเนี้ยเธอจะทำยังไง
มิลีเซ็นส์ เอ่ย เด็กคนนี้จะต้องโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและเค้าต้องไม่รับรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นในวันนี้
จากนั้นมิลีเซ็นส์ก็กลับบ้านของเธอพร้อมกับภาระที่ต้องเลี้ยงดูอริสเปรียบดั่งเป็นลูกของเธอ
12 ปี ต่อมา
* อากาศยามเช้ามีน้ำค้างหยดจากหลังคาลงสู่กระถางต้นลินลี่หน้าบ้านของ มิลีเซ็นท์ มีแสงแดดบางๆส่องรอดผ่านหน้าต่างกระจกทะลุถึงบันไดบ้านชั้นสองขนาดที่ มิลีเซ็นท์ ล้างจานอยู่นั้นมีเสียงวิ่งลงบันไดจากชั้นสอง เสียงดัง ตึกๆๆ เด็กผู้หญิงผมยาวตาโตน่าตาน่ารัก วัย 12 ปี เธอชื่อ อริส เธอวิ่งลงบันไดพร้อมพูดขึ้นว่า *อริส พูด คุณป้าค่ะวันนี้วันเกิดหนูคุณป้าจะพาหนูไปซื้อของขวัญในเมืองใช่มั้ยค่ะมิลีเซ็นท์ " จ้า หลานรักป้าไม่ลืม แต่เราต้องทานอาหารเช้ากันก่อนนะ ..มิลีเซ็นท์ พูดและยิ้มเล็กน้อย.อริส" ค่ะคุณป้า มิลีเซ็นท์ "แล้วหนูอยากได้อะไรเป็นพิเศษมั้ยจ๊ะ
*มิลีเซ็นท์ถามอริสแต่ในใจก็นึกถึงของที่พ่อของอริสฝากไว้ก่อนตายเพื่อมอบให้อริสเมื่อถึงเวลาอันควร และทั้งสองคนก็ทานอารหารเช้าต่อ 09.10 น. มิลีเซ็นท์และอริสขี่ไม้กวาดมาถึงในเมืองระยะทางจากบ้านของเธอถึงในเมือง นั้นห่างกันแค่ 20 กิโลเมตร อริสรู้สึงตื่นเต้นที่ได้เข้ามาเที่ยวในเมืองและได้เจอผู้คนมากมายที่เดินไปมาอย่างเนืองแน่น อริสและป้ามิลีเซ็นท์เดินผ่านร้านขายของวิเศษและสัตว์วิเศษ มิลีเซ็นท์พาอริสเดินเข้าไปในร้านขายสัตว์วิเศษมีสัตว์มากมายให้อริสเลือก เจ้าของร้านขายสัตว์วิเศษคือ มาดาม ฟลิน ไรเดอร์
*มาดาม ฟลิน "อรุณสวัสดิ์มิลีเซ็นท์มีอะไรให้ฉันช่วยหรือป่าว มิลีเซ็นท์"จ๊ะแน่นอน .... มาดาม ฟลิน "ให้ตายนั้น อริส ใช่มั้ยจ๊ะโตเป็นสาวสวยเชียวหนูกำลังมองหาสัตว์เลี้ยงวิเศษคู่ใจ ใช่มั้ยจ๊ะ .. อริส ตอบ.. คะ มาดามฟลิน*และอริสก็เดินมองดูสัตว์เลี้ยงวิเศษไปเรื่อยๆจนเจอกับแมวเปอร์เซียสีขาวน่ารักตัวหนึ่งมันมองอริสด้วยสายตาออดอ้อนและร้องเงี่ยวๆๆ อริสรู้สึกเอ็นดูแมวตัวนั้น .. มาดามฟลินก็พูดขึ้นว่า *ฉันว่ามันชอบเธอนะอริสดูมันทำสิ* อริส"คุณป้าค่ะหนูชอบแมวตัวนั้นคะ .. มิลีเซ็นท์"จ้าป้าว่ามันเหมาะกับหนูนะหนูจะได้มีเพื่อนเวลาที่ป้าไม่อยู่*และมิลีเซ็นท์ก็ซื้อแมวเปอร์เซียตัวนั้นให้อริสเป็นของขวัญวันเกิดและทั้งคู่ก็เดินออกจากร้านขายสัตว์เลี้ยงวิเศษและเดินไปตามทางเดินในเมือง มีของมากมายให้เลือกซื้อทั้งร้านขายไม้กวาดวิเศษ ตำราเวทย์มนต์ต่างๆและไม้กายาสิทธิ์ระหว่างทางที่เดินนั้นมีคนเดินเข้ามาพูดคุยกับมิลีเซ็นท์เธอชื่อ คามิลลา เป็นเพื่อนที่ทำงานในกระทรวงเวทย์มนต์ คามิลลาจึงชวนมิลีเซ็นท์ไปหาที่คุยพวกเธอเดินผ่านร้านน้ำชาและตัดสินใจเข้าไปนั่งคุยกันในร้าน..พวกเธอเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะในสุดของร้านแต่ระหว่างที่เดินผ่านโต๊ะตรงกลางร้านก็เจอหญิงชราคนหนึ่งนั่งบ่นอะไรงึมงัมเบาๆพวกเธอไม่ได้สนใจมากนักแต่หญิงชรามองอริสแบบแปลกๆทั้งสามได้ที่นั่งแล้วและสั่งเครื่องดื่มและน้ำชาอริสเอยปากถามมิลีเซ็นท์ว่า.อริส"คุณป้าค่ะคุณยายที่นั่งอยู่ตรงนั้นเป็นใครคะ. มิลีเซ็นท์"อ๋อแก่เป็นคนเสียสติจ๊ะมาจากใหนก็ไม่รู้แต่แกน่าสงสารนะวันๆนั่งบ่นอยู่คนเดียวแกไม่มีเพื่อน อริส"งั้นหนูขอคุยกับแกได้มั้ยค่ะ ..มิลีเซ็นท์ตอบ..ได้จ๊ะ
*และอริสก็เดินเข้าไปพูดคุยกับหญิงชราคนนั้นหญิงชราแต่งตัวมีเสื้อกันหนาวเก่าๆมีรูขาดบ้างเป็นบางจุดดูจากมือของเขาเหี่ยวมากส่งสัยอายุคงมากเลยเป็นแบบนั้นทั้งสองคุยกันและทักทายกันและอริสได้ถอดผ้าพันคอของตนเองให้หญิงชราเพื่อเอาไว้กันหนาวแต่ที่อดสงสัยไม่ได้ก็คือหญิงชราคนนั้นพูดคุยกับอริสแบบคนปกติไม่ได้เสียสติแบบที่ใครๆเขาพูดกันหญิงชราถามอริสว่ามาทำอะไรที่นี่อริสจึงบอกกับหญิงชราว่าวันนี้คือวันเกิดตนเองป้าจึงพามาเที่ยวในเมืองจากนั้นหญิงชราจึงนั่งเงียบไปพักหนึ่งจึงเอยปากขึ้นว่าหญิงชรา"ยายมีของที่จะให้หนูเป็นของขวัญนะยื่นมือมาสิ * อริสยื่นมือรับของที่หญิงชราให้มันคือสร้อยเงินและมีจี้เป็นไข่มุกขีขาวแวววาวมันสวยมากและดูเหมือนของที่มีราคาแพงอริสจึงถามหญิงชราว่าได้มันมาจากใหนหญิงชราจึงพูดให้อริสฟังว่าหญิงชรา"ยายได้มันมาจากทะเลสาบเงือกอันไกลโพ้นที่ซึ่งทุกอย่างหน้ากลัวและอันตรายมากคือแบบว่ามีนางเงือกตนหนึ่งนอนเกิยตื้นใกล้จะตายคงเป็นผลจากการต่อสู้อะไรสักอย่างยายจึงเข้าไปดู นางเงือกตนนั้นบอกยายยื่นมือมารับสร้อยเอาไว้และบอกว่าเก็บมันไว้ให้ดีจากนั้นนางเงือกก็สิ้นใจยายเก็บมันเอาไว้เป็นเวลากว่า แปดสิบปี ไม่เคยมีใครได้เห็นมันอริส"ว้าวหน้าทึ้งมากคะคุณยายเก็บของมีค่านี้ไว้นานกว่าอายุของหนูซะอีก.. ยิ้มเล็กน้อย มิลีเซ็นท์พูด อริส...อริสไปกันต่อได้แล้วจ๊ะหลานรัก อริสตอบ..คะป้า *อริสจึงบอกลาหญิงชราคนนั้น หญิงชราบอกกับอริสว่าเก็บสร้อยไว้ให้ดีนะ
หญิงชรา กล่าว
เอาไว้แค่นี้ก่อน แล้วกลับมาพบกับ บทต่อไป
ขอกำลังใจ ให้กับผู้แต่งด้วยนะครับ ขอบคุณครับ