หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ความอหังการต่อพระเจ้าในอดีตตัวอย่างแด่คนรุ่นหลัง

โพสท์โดย ลัลลา
ภาพประกอบ
-มอริส  บูกายย์ กับการประกาศรับอิสลาม-

 

 

 

 

สิ่งมหัศจรรย์ที่แสดงความมีเดชานุภาพของอัลลอฮ์

กรณีศพฟาโรห์์์์

 


"ดังนั้น วันนี้เราจะให้ร่างของเจ้ารอดพ้นจาก ทะเล เพื่อจักได้เป็นสัญญาณแก่ชนรุ่นหลังจากเจ้า

และแท้จริงส่วนใหญ่ของมนุษย์เฉยเมยต่อสัญญาณต่าง ๆ ของเรา"

อัลกุรอาน(ยูนุส / 92)

 

ช่วง ที่นายฟรองซัวส์ มิตเตอร์รองด์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ปี 1981 รัฐบาลฝรั่งเศส ได้ดำเนินการขออนุญาตจากรัฐบาลอียิปต์ ให้ส่งมัมมี่ฟาโรห์ไปยังประเทศฝรั่งเศสเพื่อทำการชันสูตรและบำรุงรักษา หลังจากนั้นก็มีการเคลื่อนย้ายศพจอมอหังการที่สุดเท่าที่โลกเคยรู้จัก

ที่ ฝรั่งเศส ...ขณะที่ขบวนเคลื่อนย้ายมัมมี่ฟาโรห์ลงจากบันไดเครื่องบิน ประธานาธิบดีพร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศฝรั่งเศส ได้้เข้้าแถวต้อนรับมัมมีี่ฟาโรห์์และคณะอย่างยิ่งใหญ่สมเกียรติ !!! เสมือนกับพิธีต้อนรับพระราชาและเสมือนว่าฟาโรห์ยังมีชีวิตอยู่ และกำลังร้องตะโกนแก่ชาวอียิปต์ว่า ข้าคือพระเจ้าที่สูงส่งของพวกเจ้า

 

หลัง จากพิธีต้อนรับเสร็จสิ้นลง... ศพจอมอหังการก็ถูกเคลื่อนย้ายด้วยขบวนรถอย่างยิ่งใหญ่ซึ่งไม่ด้อยกว่าพิธี ต้อนรับ  จากนั้นศพมัมมี่ถูกนำไปยังศูนย์พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ เพื่อทำการชันสูตรโดยคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ภาพ ที่ท่านเห็นด้านล่างนี้ คือภาพถ่ายระยะใกล้ของ ฟาโรห์โรเมสิสที่สอง สังเกตได้้ว่่ามือทั้ังสองข้้างอยู่ในสภาพกอดอก แพทย์ผู้เป็นห้วหน้าทีม  ของการชันสูตรศพในครั้งนี้คือ ศ.นพ.มอริส บูกายย์

faroah1

ทีมแพทย์ชันสูตรต่างกุลีกุจอตรวจรักษาศพมัมมี่เป็นการใหญ่ ในขณะที่ศ.นพ.มอริส ใจจดใจจ่อที่จะพิสูจน์ว่า จอมราชันย์์ผู้โอหังองค์นี้ เสียชีวิตได้อย่างไร

ศพ ของโรเมสิสที่สองนี้ มีสภาพที่แตกต่างจากศพฟาโรห์อื่นๆ ที่มีการชันสูตรก่อนหน้านี้ เพราะลักษณะการสิ้นชีวิตของฟาโรห์องค์นี้แปลกพิสดารมาก ขณะทีี่ทีมแพทย์์แกะผ้้าพันศพออก พวกเขาต้้องตระหนกตกใจเมื่อมือซ้ายของมัมมี่นี้ได้ยื่นออกอย่างรวดเร็ว คล้ายกับว่าผู้ที่ห่อศพได้ออกแรงดันให้มือท้ังสองข้างชิดแนบอกเหมือนศพ ฟาโรห์องค์อื่นที่สิ้นชีวิตก่อนหน้านี้ ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ????

 

ช่วงดึกของคืนหนึ่ง ศ.นพ.มอริสได้พิสูจน์ผลการทดสอบครั้งสุดท้าย ซึ่งค้นพบว่า มีเกร็ดเกลือติดอยู่กับศพ ฟาโรห์

หลังจากมีการเอ็กซ์เรย์ เขายังพบอีกว่า กระดูกของศพได้หักเป็นท่อน ๆ ในขณะที่ผิวหนังไม่มีร่องรอยการฉีกขาดเลย สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการยืนยันว่าฟาโรห์องค์นี้จมน้ำตายอย่างแน่นอน เนื่องจากถูกกระแทกด้วยน้ำอย่างรุนแรง ทำให้กระดูกหัก แต่ผิวหนังไม่ฉีกขาด หลังจากเสียชีวิต ศพฟาโรห์ องค์นี้ถูกเคลื่อนย้ายออกจากทะเลโดยทันที

faroah3

หลังจากนั้นประชาชนได้้เร่งรีบห่อศพเป็นมัมมี่เพื่อป้องกันจากการเน่าเปลื่อย

สิ่งที่แปลกกว่านี้ ทีมแพทย์สามารถอธิบายเกี่ยวกับมือซ้าย ซึ่งฟาโรห์องค์นี้กำลังถือเชือกบังคับม้าหรือดาบด้วยมือขวา ในขณะที่มือซ้ายถือโล่ห์ และเป็นช่วงที่พระองค์จมน้ำตายพอดี

http://farm4.static.flickr.com/3434/3259433195_f7d821ee08.jpg" alt="" width="224" height="157" align="bottom" border="0" hspace="0" /> 

เนื่องจากอยู่ในอาการตกใจสุดขีด ในขณะที่มือซ้ายกำลังปกป้องการโหมกระหน่ำของน้ำทะเลอย่างสุดชีวิต ทำให้พระองค์ต้องจบชีวิตในลักษณะนี้ ซึ่งในวงการแพทย์แล้วเป็นที่ทราบกันว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะดึงมือให้แนบอกอีกคร้ัง

อาการ ของศพในลักษณะนี้ เป็็นทีี่ทราบกันดีในวงการแพทย์ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเหยื่อหรือผู้ตายอยู่ใน อาการปกป้องชีวิตแบบสุด ๆ เช่นกำลังคว้าเสื้อฆาตกรหรือส่วนอื่น ๆ ในทำนองนี้

แต่สิ่งหนึ่งที่สร้างความประหลาดใจแก่่  ศ.ดร.มอริส คือ .......

ทำไม ? ศพฟาโรห์องค์นี้มีสภาพที่สมบูรณ์กว่าศพฟาโรห์องค์ อื่น ๆ ทั้ง ๆ ที่ศพฟาโรห์องค์นี้ถูกนำมาจากท้้องทะเล

มอริส บูกายย์ ได้ตระเตรียมเขียนรายงานชิ้นสุดท้ายเกี่ยวกับสิ่งใหม่ที่ตนเองค้นพบ นั่นคือฟาโรห์องค์นี้ จมน้ำตายในทะเลก่อนที่จะถูกนำขึ้นบก เขาวาดฝันว่าสื่อทุกแขนงคงให้ความสนใจกับสิ่งที่ตนเองค้นพบอย่างแน่นอน

 

จน กระทั่งหนึ่งในทีมแพทยช์ชันสูตรได้กระซิบกับเขาว่า ท่านจะรีบร้อนไปทำไม ชาวมุสลิมรู้เรื่องฟาโรห์ จมทะเลตายมาก่อนแล้ว อัลกุรอานของพวกเขาได้เล่าเรื่องนี้มาตั้ังแต่ 14 ศตวรรษทีี่ผ่านมาแล้้ว

คำพูดนี้ทำให้ ศ.นพ. มอริส  แปลกใจมาก เขาจึงปฏิเสธอย่างแข็งขันว่า ไม่มีทางที่อัลกุรอานจะค้นพบสิ่งเร้นลับนี้ได้ เว้นแต่ต้องอาศัยอุปกรณ์อันทันสมัยและเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีศักยภาพสูงมาก

ยิ่งไปกว่านั้น มัมมี่ องค์นี้ได้รับการค้นพบครั้งแรกเมื่อป 1898 !

ศ.นพ.มอริส รู้สึกแปลกใจยิ่งขึ้น และถามตนเองว่า ไม่มีทางที่ปัญญาของมนุษย์จะยอมรับคำบอกเล่าของอัลกุรอานในเรื่องนี้ได้

มนุษย์์ ทั้ั้งมวลซึ่งไม่่เพียงแต่่ชาวอาหรับเท่านั้ั้นต่่างก็ไม่่รู้้ด้้วยซ้ำว่่า ชาวอียิปต์์ยุคก่่อนรู้้วิธีรักษาศพด้้วยการห่่อศพเป็็นมัมมีี่ เว้้นแต่่ก่่อนหน้้านี้เพียงไม่กีี่ร้อยปีีเท่า่นั้ั้น

http://english.people.com.cn/200704/12/images/xinsrc_0020404111035781141439.jpg" alt="" width="189" height="127" align="bottom" border="0" hspace="0" />

ศ.ดร.มอ ริส นั่งเพ่งพินิจศพฟาโรห์ทั้งคืนในขณะที่มันสมองของเขา หวนคิดคำพูดของเพื่อน ๆ ว่า อัลกุรอานของชาวมุสลิม ได้พูดถึงศพฟาโรห์ที่ถูกนำออกจากทะเลหลังจากจมน้ำ

ใน ขณะที่คัมภีร์ไบเบิลได้เล่าเพียงการจมน้ำตายของฟาโรห์ช่วงที่ไล่ล่านบีมูซา เท่านั้น โดยไม่มีการพูดถึงว่าศพฟาโรห์ได้ถูกนำ ณ ที่ใดบ้าง

เป็นไปได้หรือที่ มูฮัมมัด ของพวกเขารับทราบความจริงนี้มาตั้ังแต่พันกว่า่ ปีีแล้้ว

ในคืนนั้น ดร.มอริสไม่สามารถหลับตานอนได้เลย เขาได้ส่ั่งให้ผู้ช่วยของเขานำคัมภีร์์โตราห์์ และเขาได้้อ่านตอนหนึึ่ง

ความว่่า“และแล้วน้ำก็ได้โถมเข้า้ใส่ ทำให้เหล่าทหารม้าของฟาโรห์จมใต้ทะเล ไม่มีใครรอดชีวิตแม้เพียงคนเดียว”

http://sites.google.com/site/radiomankc/_/rsrc/1218570505947/art-fotos-wink-wink/Egyptian-Pharaoh-Ramses-II-Papyrus-Art-Scroll-383_20_3_7_1_8_4_012.jpg" alt="" width="258" height="164" align="bottom" border="0" hspace="0" />     http://www.foxnews.com/images/242830/1_61_mummy_ramses.jpg" alt="" width="184" height="160" align="bottom" border="0" hspace="0" />       

ดร.มอ ริส ยังคงแปลกใจอยู่่ว่่า แม้้กระทั่งไบเบิลก็ไม่เคยพูดถึงศพของฟาโรห์ว่าถูกรักษาไว้อย่างดี คัมภีร์โตราห์ก็เช่นเดียวกัน ไม่ได้้กล่าวถึงรายละเอียดจุดจบของศพ ฟาโรห์เ์ลย

หลังจากการตรวจชันสูตรสำเร็จไปด้วยความเรียบร้อย รัฐบาลฝรั่งเศสก็ส่งคืนมัมมี่ฟาโรห์กลับคืนไปยังอียิปต์

แต่ ความรู้สึกของ ดร. มอริส ยังคงว้าวุ่นกระวนกระวาย หลังจากที่เขาทราบว่าชาวมุสลิมรู้มาก่อนหน้านี้ว่าศพฟาโรห์ถูกเก็บรักษา อย่างปลอดภัย

เขาจึงจัดแจงสัมภาระ และตัดสินใจเดินทางไปยังประเทศมุสลิม เพื่อขอพบกับบรรดาศัลยแพทย์มุสลิม

 ณ ที่นั่น เขาได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับศัลยแพทย์มุสลิม พร้อมทั้งเล่าสิ่งที่เขาค้นพบเกี่ยวกับศพฟาโรห์ที่ถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่าง ดีหลังจากจมน้ำตาย หนึ่งในศัลยแพทย์มุสลิมได้้ลุกขึ้น พร้้อมเปิิดอัลกุรอานและอ่่านพจนารถของอัลลอฮฺว่า

“ดัง นั้น วันนี้เราจะให้ร่างของเจ้ารอดพ้นจากทะเล เพื่อจักได้เป็นสัญญาณแก่ชนรุ่นหลังจากเจ้า และแท้จริงส่วนใหญ่ของมนุษย์เฉยเมยต่อสัญญาณต่า่ง ๆ ของเรา” (ยูนุส / 92)

อายะฮฺนี้ทำให้เขาต้องตะลึงแน่นิ่ง หัวใจเต้นระรัวด้วยความประหลาดใจ เขาได้ลุกขึ้นยืนท่ามกลางสายตาผู้คน พร้อมป่าวตะโกนเสียงก้องว่า ฉันขอประกาศรับอิสลาม และฉันศรัทธาต่ออัลกุรอานนี้

ดร. มอริส บูกายย์ ได้กลับสู่ประเทศฝรั่งเศสในสภาพที่ต่างจากช่วงที่เขาออกมาอย่างสิ้นเชิง

 หลัง จากนั้น เขาจึงได้ทุ่มเทเวลานานนับสิบปีศึกษาวิจัยความสอดคล้องของวิทยาการและการค้น พบทางวิชาการยุคใหม่กับเนื้อหาที่ปรากฏในอัลกุรอาน

นอกจากนี้ เขายังใช้ความพยายามค้นหาข้อผิดพลาดทางวิชาการที่อาจมีอยู่ในอัลกุรอาน แต่เขาก็ไม่เจอะเจอ แม้เพียงเรื่องเดียว

 และแล้้ว เขาก็ต้้องยอมจำนนกับพจนารถของอัลลอฮฺทีี่ได้้ดำรัสความว่า

“ความ เท็จจากข้างหน้าและจากข้างหลังจะไม่สามารถย่างเข้้าไปสู่อัลกุรอานได้้ (เพราะ) เป็็นการประทานจากพระผู้้ทรงปรีชาญาณ ผู้ทรงได้รับการสรรเสริญ”

ผล พวงจากความทุ่มเทตลอดระยะเวลาสิบปีนี้ ทำให้ ดร.มอริส สามารถผลิตผลงานชิ้นเอกที่พูดถึงความมหัศจรรย์ของอัลกุรอาน ซึ่งได้รับการกล่าวขานอย่่างกว้้างขวางในประเทศยุโรป และทำให้้วงวิชาการทั่วโลกต้องสั่นสะเทือน

http://ecx.images-amazon.com/images/I/51oXqFGHxHL._SL500_SS90_.jpg" alt="" width="149" height="139" align="bottom" border="0" hspace="0" />http://3.bp.blogspot.com/_KTz1r2L2rrQ/SadYC0hKEoI/AAAAAAAAAN0/aWWzxFFeDdI/s320/untitled.bmp" alt="" width="132" height="141" align="bottom" border="0" hspace="0" />    http://www.way-to-allah.com/images/bible%26quran.jpg" alt="" width="102" height="141" align="bottom" border="0" hspace="0" />         http://kitaabun.com/shopping3/images/BibleQuranandScience.jpg" alt="" width="103" height="141" align="bottom" border="0" hspace="0" />

ตำราที่ท่านได้เขียนไว้้มีชืื่อว่่า “คัมภีร์ไบเบิล คัมภีร์กุรอาน และ วิทยาศาสตร์

ผู้ เขียนได้ศึกษาบรรดาคัมภีร์อันประเสริฐ โดยการใช้ความรู้สมัยใหม่มาเปรียบเทียบ เป็นหนังสือที่มียอดจำหน่ายสูงสุดเล่มหนึ่ง จนกระทั่งขาดตลาดในเวลาอันรวดเร็ว และได้รับการต้อนรับอย่างดีในยุโรปและอเมริกาจนกระทั่งปัจจุบัน

มี นักวิชาการบางคนที่อัลลอฮฺได้ปกปิดดวงใจและนัยน์ตาของเขามิให้มองเห็น สัจธรรม ได้พยายามตอบโต้หนังสือเล่มนี้ แต่พวกเขาไม่ได้้เขียนอะไรเลยเว้้นแต่การโต้้แย้้ง ที่เต็มไปด้วยความอคติและความพยายามอันสูญเปล่า ที่บรรดาชัยฏอนได้ดลใจให้แก่พวกเขา

สิ่ง ที่แปลกกว่่านี้มีนักวิชาการตะวันตกบางคน ได้้เตรียมการที่จะตอบโต้หนังสือเล่มนี้ แต่หลังจากที่ได้อ่านหนังสือนี้อย่างลึกซึ้งและพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน แล้้ว นักวิชาการเหล่านี้กลับกล่าวคำปฏิญาณตนและประกาศรับอิสลามเสียเอง


คุณรู้จัก ศ.ดร.มอริส บูกายย์์ ดีแค่ไหน ?

http://www.islampedia.com/ijaz/Html/Scientist_All/Dr%2520Maurice%2520Bucaille_files/image001.jpg" alt="" width="250" height="169" align="bottom" border="0" hspace="0" />

มอ ริส บูกายย์ เป็นชาวฝรั่งเศส  เกิดเมื่อ 19 July 1920 เติบโตจากครอบครัวที่เป็นคริสเตียนนิกายออร์ทอด็อกส์ เป็นศัลยแพทย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในฝรั่งเศสเขา้ รับอิสลามเมื่อปี 1982


คัมภีร์ ไบเบิล คัมภีร์อัลกุรอาน และ วิทยาศาสตร์ เป็นงานชิ้นเอกของ มอริส บูกายย์ ซึ่งเขียนขึ้นหลังจากการค้นคว้าหาข้อมูลอย่างยาวนาน ทั้งจากคัมภีร์ไบเบิล อัลกุรอานและแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ บูกายย์ ได้ทุ่มชีวิตให้กับการเรียนรู้อิสลามด้วยการศึกษาภาษาอาหรับ และคัมภีร์อัลกุรอานอย่างมุ่งมั่นก่อนที่จะสรุปว่า

“ ในชีวิตนี้ ผมไม่เคยพบความสอดคล้องระหว่างศาสตร์และศาสนาเลยจนกระทั่งผมได้ศึกษาอัลกุ รอาน  ในทัศนะอิสลามแล้วศาสนาและความรู้้เป็็นคู่่แฝดทีี่ไม่่สามารถแยกออกจากกัน ได้เลย ”


หนังสือเล่มนี้ได้รับการแปลไม่น้อยกว่า 17 ภาษา รวมทั้งภาษาไทยที่แปลโดย ดร.กิติมา อมรทัต ปรมาจารย์ด้านการแปล  ผู้ล่วงลับไปแล้ว ได้ผ่านการตีพิมพ์แล้ว จำนวน 3 ครั้ง (2542 2546 และ2551 ตามลำ ดับ) โดยสำนักพิมพ์์อิสลามิคอะเคเดมี


มอริส ยังได้กล่าวอีกว่า

“อัล กุรอานสอดคล้องกับข้อมูลวิทยาศาสตร์สมัยใหม่อย่างลงตัวที่สุดความรู้สมัย ใหม่ทำให้เ้ราเข้าใจโองการ หลายโองการในอัลกุรอาน ซึ่งไม่สามารถตีความได้จนกระทั่งบัดนี้”

มอริส กล่า่าวว่า่

“หาก มีการอ้้างว่่า อัลกุรอานเป็็นตำาราทีี่เขียนโดยมนุษย์์แล้้ว เป็็นไปได้้อย่่างไรทีี่มนุษย์์์์ซึึ่งมีชีวิตในศตวรรษทีีีี่ 7 จะมีความรู้้้้อย่่่่างแตกฉานและถูกต้้องแม่่นยำในเนื้อหาวิชาการทีี่ไม่่ เคยเกิดขึ้นในยุคของเขา”


มอริสยังเสริมอีกว่า

“สัมผัส แรกที่เราสามารถรู้สึกได้หลังจากศึกษาอัลกุรอานแล้ว คือ ความน่าทึ่งของเนื้อหาอัลกุรอานทีี่เต็มไปด้้วยสาระข้้อมูลทางวิชาการมากมาย ในขณะที่ในคัมภีร์โตราห์ มีเนื้อหาที่เต็มไปด้วยความผิดพลาดและไม่สามารถยอมรับได้ในวงวิชาการ แต่ในอัลกุรอาน เราจะไม่พบความผิดพลาดในลักษณะนี้แม้เพียงเรื่องเดียว”


 มหาบริสุทธิ์แด่อัลลอฮฺ ซึ่งได้กล่าวว่า

“และหากปรากฏว่าพวกเจ้้าอยู่ในความแคลงใจใดๆ  เกี่ยวกับอัลกุรอาน

ที่เราได้ประทานลงมาแก่บ่าวของเราแล้ว ก็จงนำมาซูเราะฮฺหนึ่งเยี่ยงอัลกุรอานนี้

และจงเชิญชวนผู้ที่อยู่ในหมู่พวกเจ้านอกจากอัลลอฮฺเป็นประจักษ์พยาน หากพวกเจ้าเป็นผู้พูดจริง”


มนุษย์ ทั้งมวล ไม่ว่ามุสลิมหรือไม่ใช่มุสลิุมก็ตาม ต่างก็ได้อ่านหรือได้ยินคำ ประกาศที่อหังการและท้้าทายสติปััญญาของมนุษย์์ทีี่สุด มาในลักษณะนี้ตั้งแต่ 14 ศตวรรษแล้ว แต่ยังไม่มีใครสักคนที่หาญกล้าตอบรับคำท้าทายนี้ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต จนกระทั่งวันกิยามะฮ์


 อัล กุรอาน คือคัมภีร์ที่อัลลอฮ์ทรงประทานลงมา เป็นเพราะความมหัศจรรย์ที่เหนือคำบรรยาย ที่สามารถยืนยันในสัจธรรมของ นบีมูฮัมมัด ที่มนุษย์สามารถใช้สติปัญญาพิสูจน์ไ์ด้

ความว่า "อะลิฟ ลาม มีม คัมภีร์นี้ ไม่มีความสงสัยใดๆในนั้น เป็นทางนำสำหรับบรรดาผู้ยำเกรงเท่า่นั้น"

http://www.kaheel7.com/userimages/faroon.jpg" alt="" width="225" height="172" align="bottom" border="0" hspace="0" />


“ดัง นั้น วันนี้เราจะให้ร่างของเจ้ารอดพ้นจากทะเล เพื่อจักได้เป็นสัญญาณแก่ชนรุ่นหลังจากเจ้า และแท้จริงส่วนใหญ่ของมนุษย์เฉยเมยต่่อสัญญาณต่่าง ๆ ของเรา” (ยูนุส / 92)

อายะฮฺนี้ นำความจริงให้แก่เราอย่า่งน้อย 3 ประการ

1) ศพฟาโรห์ถูกรักษาเป็นอย่างดี ไม่เน่าเปื่อยในทะเลเหมือนศพอื่น ๆ

2) เป็็นสัญญาณในเดชานุภาพของอัลลอฮฺสำหรับผู้้ศรัทธา

3) คนส่วนมากจะเมินเฉยกับสัญญาณของอัลลอฮฺ ดังกรณีศพฟาโรห์นี้ที่คนส่วนใหญ่ดูเป็นเรื่องราวที่เกียวเนื่องกับธุรกิจการ ท่องเที่ยวเชิงโบราณคดี มากกว่าที่จะเป็นสัญญาณแห่งความปรีชาของอัลลอฮฺ

 

ปล.เราทุกคนมีความเชื่อไม่เหมือนกัน  เจ้าของกระทู้ มิได้โพสให้เชื่อหรือ อะไร  แต่แค่  เผยแผ่ ตามที่ได้ รับรู้มา แต่นั้นมันก็ขึ้นอยู่ว่าท่านอ่านแล้วจะวิจารณ์สนุกปากแค่ไหนหรืออ่านแล้วจะเชื่อหรือไม่เท่านั้นเอง

  ขอความสันติสุขจมีแด่ท่่าน

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ลัลลา's profile


โพสท์โดย: ลัลลา
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
76 VOTES (4/5 จาก 19 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
สื่อดัง "วอยซ์ทีวี" ประกาศปิดกิจการ 31 พ.ค.นี้ เลิกจ้างพนักงานกว่า 100 ชีวิต ด้าน "แขก คำผกา"เคลื่อนไหวแล้ว ปลัดทรงสืบ แฝงนั่งชิลล์อยู่ริมหาดจอมเทียน เจอเหตุรัวปืนสุดกร่าง ผลักมาสคอตตกน้ำ เกือบไม่รอดแล้งหนัก...ประปาไร้น้ำ เกาะพีพีต้องซื้อน้ำใช้ขำสุดซอย..ฮาก๊าก..คลายเครียด!3 นักษัตรที่การเงินเด่น มีโชคด้านการลงทุน เสี่ยงดวงช่วงนี้"ภาวะโลกเดือด" การปรับตัวในยุคที่ท้าทายสุดขีดของมนุษย์!!คืนชีพผักเหี่ยวแบบง่ายๆ..ให้กลับมาสดใสอีกครั้งมารู้จัก "แบม สราลี" ผู้รับบท "ม.ล.ปกเกศ"..ในดวงใจเทวพรหม ตอน "ขวัญฤทัย"
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
สื่อดัง "วอยซ์ทีวี" ประกาศปิดกิจการ 31 พ.ค.นี้ เลิกจ้างพนักงานกว่า 100 ชีวิต ด้าน "แขก คำผกา"เคลื่อนไหวแล้ว 4 ราศีที่ชอบเล่นตลกแกล้งคนขำสุดซอย..ฮาก๊าก..คลายเครียด!ถอนหมายจับ สนธิญา แจงเหตุไม่ไปศาล อ้างจำวันผิดมารู้จัก "แบม สราลี" ผู้รับบท "ม.ล.ปกเกศ"..ในดวงใจเทวพรหม ตอน "ขวัญฤทัย"
ตั้งกระทู้ใหม่