หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

พระฤาษีกับวิชาไสยศาสตร์

โพสท์โดย ตี๋ใหญ่เมืองมังกร

 

ไสยศาสตร์

ศาสตร์ทั้งหลายบนโลกนี้แบ่งแยกได้เป็น 2 ศาสตร์ใหญ่ๆคือ
1 พุทธศาสตร์ หมายถึง ศาสตร์แห่งการตื่น เปรียบได้กับความรู้หรือความเข้าใจและ การกระทำต่างๆที่สามารถแสดงและพิสูจน์ให้ผู้อื่นรู้จริงเห็นแจ้งชัดสามารถ แสดงให้ผู้อื่นรับรู้และเข้าใจได้ทุกขั้นตอนอย่างเป็นหลักการ เช่น วิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์ เป็นต้น
2 ไสยศาสตร์ หมายถึง ศาสตร์แห่งการหลับ เปรียบได้กับความรู้หรือความเข้าใจและ การกระทำต่างๆที่ไม่สามารถพิสูจน์ให้ผู้อื่นรับรู้และเข้าใจได้อย่างเป็น หลักการทุกขั้นตอน แต่สามารถให้ผลลัพธ์ ให้คุณ แสดงผล และแสดงคุณของไสยศาสตร์ได้ตามความต้องการของผู้กระทำได้ และแม้ว่าไสยศาสตร์จะหมายถึงการ หลับใหล ก็ตามแต่ก็ หมายความว่าเป็นเพียงการหลับของร่างกายสังขารเท่านั้น โดยนัยยะ จริงๆก็คือเป็นการหลับเพียงร่างกายเท่านั้นแต่ “จิต” เป็นผู้ กระทำนั่นเอง ดังนั้น ไสยศาสตร์ จึงสรุปได้ว่าคือการกระทำให้สำเร็จได้ด้วยจิตโดยไม่สามารถพิสูจน์หรือแสดง ขั้นตอนการกระทำหรือชี้แจงหลักการของความเป็นไปของการกระทำได้นั่นเอง(ยก ตัวอย่างเช่น การฝังรูปฝังรอย ที่ใช้วิธีนำเอาดินมาปั้นเป็นรูปคนสองคนแล้วนำมามัดเข้าด้วยกันเพื่อให้รัก กันนั้นหากมองในทางไสยศาสตร์ก็คือวิชชาเสน่ห์ประเภทหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ยอมรับและใช้ได้ผลกันมานานนับร้อยๆปีแต่หากมองในแง่พุทธศาสตร์ แล้วกลายเป็นเรื่องที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้เลยว่าการที่นำดินสองกองมาปั้น เป็นรูปคนแล้วนำมาผูกกันจะเกี่ยวข้องอะไรกับการที่จะให้คนสองคนนั้นมารักกัน ได้ เป็นต้น)

http://www.amulet1.com/showimg.php?img=topic&id=388

 

ไสยศาสตร์ยังแบ่งออกเป็นอีก 2 สาย คือ

1 ไสยวิชชา หมายถึงวิชาหรือพิธี,วิธี ที่ได้รับการสั่งสอน อบรมสั่งสอนหรือมอบให้(บางคนเรียกว่าครอบให้)ต่อๆกันมาแบ่งออกเป็น
1.1 วิชชาไสยขาว โดยทั่วไปหลักการของวิชชาไสยขาวจะต้องมีหลักการหรือหัวใจสำคัญคือต้องใช้ไปในทางช่วยเหลือผู้อื่นเท่านั้น
1.2 วิชชาไสยดำ หลักการโดยทั่วไปของวิชชาไสยดำจะแตกต่างจากวิชชาไสยขาวโดยสิ้นเชิงคือมุ่ง เน้นสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นเป็นหลักสำคัญโดยไม่ต้องมีแรงจูงใจหรือ หลักการใดๆทั้งสิ้น (ยิ่งมีผู้เดือดร้อนกับการกระทำของผู้เรียนวิชชาไสยดำมากเท่าไหร่พลังของผู้ ที่ศึกษาของวิชชานี้ก็จะยิ่งแกร่งและแก่กล้าขึ้นมากเท่านั้น)
2 ไสยอวิชชา หมายถึงวิชาหรือพิธี,วิธี ที่คิดค้นขึ้นเองโดย ผู้ทำพิธี ซึ่งต้องอาศัยอำนาจของสิ่งที่ มีพลัง มีฤทธิ์ มีอาถรรพ์ นำมาเป็นปัจจัยหลัก

(ในบางกรณีมักมีการ กล่าวอ้างว่าไสยศาสตร์ คือเดียรฉานวิชานั้น เป็นความเข้าใจที่ผิดๆเพราะคำว่าเดียรฉานแปลว่าสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังขนาน กับพื้นซึ่งตรงข้ามกับคำว่านิรฉานซึ่งหมายถึงสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังตั้ง ฉากกับพื้น คำว่าเดียรฉานวิชาจึงอาจหมายถึงการด่าหรือต่อว่า ประณาม หยามเหยียดซะมากกว่า)


ครูบา อาจารย์ ไสยศาสตร์ คือผู้สั่งสอนและถ่ายทอดวิชชาไสยศาสตร์ให้สืบต่อตกทอดมารุ่นแล้วรุ่นเล่า หรือ อาจหมายถึงสิ่งอันทรงอานุภาพ ทรงศักดิ์ ทรงฤทธิ์ มีอำนาจในการประทานอำนาจเพื่อให้ผู้ที่ประกอบพิธีสามารถทำพิธีได้สำเร็จก็ ได้

https://us-fbcloud.net/wb/data/534/534830-topic-ix-13.jpg

 

ครูบา อาจารย์ไสยศาสตร์ที่สำคัญๆมีหลายพระองค์ดังจะยกตัวอย่างพอสังเขปดังนี้คือ
1 องค์พระศุกกราอาจารย์(พระ-ศุก-กรา -อา-จา-ระ-ยะ) หรือฤาษีศุกร์ และอีกนามหนึ่งคือครูอสูร ผู้ซึ่งเป็นคุรุ หรือครูของเหล่าอสูร ยักษ์ ทั้งหลาย เป็นบุตรแห่ง(มหาฤาษีภฤคุผู้ทรงเป็นหนึ่งในเจ็ดมหาสัปตะฤาษีผู้ยิ่งใหญ่ ทั้ง7) ฤาษีศุกร์ เชี่ยวชาญในมนตรา วิชา ทุกแขนง ที่สันทัดเป็นพิเศษคือ การกำหนดปลุกฟื้นคืนชีพและการทำลายชีวิตศัตรูแบบช้าๆด้วยความทรมานด้วยสาร พักศาตราและโรคา การกดดวงชะตาให้ตกต่ำไม่มีผู้ค้ำจุน หรือการทำลายฐานดวงให้ชีวิตพลัดพรากจากสิ่งที่ตนรัก ในทางกลับกัน ก็เชี่ยวชาญในการแก้ไขเช่นเดียวกันด้วย พระฤาษีศุกร์ มีลูกศิษย์คนสำคัญๆยกตัวอย่างเช่น โสมเทพ(พระจันทร์) ราหู (พระราหู)เป็นต้น ฤาษีศุกร์ถือเป็นฤาษีที่อยู่ในศักดิ์ เทพฤาษี อันเป็นชั้นที่ 2 ของระดับชั้นของฤาษีเบื้องบน(ฤาษีแบ่งเป็นฤาษีเบื้องบนคือชั้นฟ้าและฤาษี เบื้องล่างคือชั้นดิน) ในชั้นที่แรกสุดของฤาษีชั้นฟ้าคือราชฤาษี ชั้นที่2คือเทพฤาษี ชั้นที่3คือพรหมฤาษี และชั้นสูงสุดคือมหาฤาษี

2 องค์พระฤาษีอังคีรส(พระ-อัง-คี -รส) หรือฤาษีพฤหัส และอีกนามหนึ่งคือคุรุเทพ เป็นคุรุหรืออาจารย์ของเหล่าเทพทั้งหลายยกตัวอย่างเช่น พระสุริยเทพ(พระอาทิตย์) องค์อมรินทราเทวาธิราชเจ้า(พระอินทร์)เป็นต้น เป็นฤาษีชั้นฟ้าในระดับเทพฤาษี เป็นบุตรของ(มหาฤาษี อังคีระสะ หนึ่งในมหาสัปตฤาษีผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง7) ฤาษีพฤหัส เป็นผู้เชี่ยวชาญในทุกแขนงมนตรา วิชา และที่ถนัดเป็นพิเศษคือวิชาในการ ให้สติปัญญา สร้างจิตสำนึกที่ดี เปลี่ยนแปลงแก้ไขความชั่วร้ายทั้งหลายให้กลายเป็นความดีงาม สร้างความรักความเข้าใจในสามีภรรยา และครอบครัว และองค์กรต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

3 ฤาษีตาวัว หรืออีกชื่อหนึ่งคือฤาษีหน้าวัว พระนามที่จริงคือ พระนนทิ (พระ-นน-ทิ) นั่นเอง เป็นฤาษีในชั้นเทพ เป็นบริวารองค์สำคัญและยังเป็นพระราชพาหนะของ (องค์พระสดาศิวะมหาเทพ) เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องดนตรี การร้อง ฟ้อน รำ เต้น มีศิลปะในการพูดจา เจรจาได้น่าฟังเป็นที่น่าเชื่อถือและเป็นที่ยกย่อง อีกทั้งเป็นที่รักใคร่ของผู้อื่น มีเสน่ห์ ดึงดูดใจเพศหญิงเป็นอย่างดีในภาคนี้มีรูปร่างเป็นมนุษย์ นุ่งห่มหนังเสือดาวสีเหลือง ศีรษะ เป็นวัวหนุ่ม สีขาว สวมประคำหินสีดำ

4 ฤาษีหน้าเสือ หรือ พระนามที่จริงคือ ท่านท้าว หิมวัต (หิม-มะ-วัต) เป็นฤาษีในชั้นเทพ เป็นพระราชบิดาของ(องค์พระแม่ปารวตีมหามาตาอุมาเจ้า) เป็นหนึ่งในคณะปติบริวารสำคัญ ของ องค์พระสดาศิวะมหาเทพ เป็นผู้เชี่ยวชาญในการปราบและกำราบศัตรูเก่งกาจในเรื่องการรบ และการปกครองบริวาร ควบคุมดูแลบริวารได้อย่างดีเยี่ยมในภาคนี้มีรูปร่างเป็นมนุษย์ นุ่งห่มหนังเสือโคร่งสีเหลือง ศีรษะเป็นเสือโคร่ง สวมประคำ รุทรากษะ 

5 ฤาษีสุตะ เป็น ฤาษีในชั้นดิน เป็นศิษย์เอกของ(มหาฤาษีวยาสะหนึ่งในคณะอาจารย์แห่งฤาษีชั้นฟ้าและชั้นดิน) ฤาษีสุตะเป็นผู้เชี่ยวชาญในการขับอ่านโศลก และแตกฉานเชี่ยวชาญในปุราณะ ทั้ง 27 ปุราณะโดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศิวะปุราณะซึ่งแบ่งออกเป็น 24,000 บาท แยกย่อยได้อีกเป็น 7 สัมหิตา (เรื่องราวโดยสังเขป) ฤาษีสุตะมีรูปกายเป็นชายในสังขารราว60-70ปี ผิวกายขาว ร่างกายทาด้วยขี้เถ้า ไว้เหนวดเครายาวเสมอ อก ผมยาวมุ่นเป็นมวย ผมเผ้าหนวดเคราเป็นสีดำสนิท นุ่งห่มผ้าสีเหลือง,ส้ม คล้องประคำ รุทรากษะ 

6 ฤาษีกษิโรธ เป็น ฤาษีในชั้นเทพฤาษี ถือได้ว่าเป็นเสมือนบิดาของ(องค์พระมหาลักษมีมาตาเทวีเจ้า ผู้เป็นพระชายาในพระมหาวิษณุผู้เป็นเจ้า) เป็นผู้สันทัดในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ ความมั่งคั่ง ร่ำรวย ด้วยสมบัติ อันมากมาย ฤาษีกษิโรธ ภาคนี่มีรูปเป็นมนุษย์ ศีรษะเป็นพญานาค ผิวกายสุกสว่างเป็นสีขาว นุ่งห่มด้วยเสื้อผ้าเครื่องประดับล้ำค่าดั่งกษัตริย์เป็นสีขาว คล้องประคำไข่มุกสีขาว 

7 ฤาษีศิลาท เป็น ฤาษีในชั้นดิน เป็นบิดาของ(พระนันทิน หรืออีกนามหนึ่งคือ พระนันทิเกศวร ผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะปติของ องค์พระสดาศิวะมหาเทพ) ฤาษีศิลาท เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับว่า มีบุตรอันยอดเยี่ยม และยิ่งใหญ่ เป็นอภิชาตบุตร อันหาที่เสมอเหมือนมิได้ ฤาษีศิลาท มีรูปกายเป็นมนุษย์ สูงใหญ่ผิวแดง หนวดเคราหนาสีดำสนิท แข็งแรง คล้องประคำรุทรากษะ นุ่งห่มผ้าสีเหลือง,ส้มผมยาวมุ่นเป็นมวย สีเทา

 

อยากรอบรู้ดููที่นี่     http://group.wunjun.com/#!/salekumarn

 

อยากเป็นเศรษฐีรีบเข้ามา  http://www.lek777.com/ads.php?banner_id=13&code=AF7455

 

 

 

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
60 VOTES (4/5 จาก 15 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
สาวพม่ารีวิว! ค่าใช้จ่ายในการมาเรียนที่ประเทศไทย?หนูอายเพื่อน!! ลูกสาวถึงกับร้องไห้ หลังคุณพ่อสายแฟ (ชั่น) มารับที่โรงเรียน ถึงกับถาม “พ่อไม่มีชุดธรรมดาปกติกับเค้าบ้างเหรอ” 😆ชาวเน็ตท้าหนุ่มกินกาแฟทุกยี่ห้อ..ไม่น่าเชื่อเลยว่า เขาจะรับคำท้า5 ราศีที่มีพญาครุฑคุ้มครองiPhone รุ่นประหยัดมาแล้ว!ชาวบ้านตาดี พบคู่รักซั่มกันในทะเล ที่ภูเก็ต (มัีคลิป)นักวิทยาศาสตร์เผย? “มนุษย์ทุกคนจะมีคนที่หน้าเหมือนเราอีก 7 คน อยู่ทั่วโลก”นี่คือ หนังสือโบราณ (อายุ 140 ปี) ที่ปกทำมาจาก "ผิวหนังมนุษย์"?สถานีรถไฟของจีนที่ถูกชาวเน็ตล้อเลียน ว่า "เหมือนผ้าอนามัย"..?
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
หลอนทั้งอพาร์ทเมนต์! คนใช้น้ำแทบช็อก..หลังพบศwในแทงค์น้ำบนชั้นดาดฟ้าunpredictable: คาดการณ์ไม่ได้ ทายไม่ถูก5 ราศีที่มีพญาครุฑคุ้มครองครูไพบูลย์ เจ้าของฉายากงยูเมืองไทย โพสหยอดหวาน ลั่น "เมื่อไหร่จะได้ยกเอวเขาน้อ"
ตั้งกระทู้ใหม่