เรื่องเล่า กรวดน้ำ สมัยพุทธกาล
เมื่อพระองค์ผจญมารกับพวกอีกห้าร้อยตนได้เดินทางมาที่ต้นพระศรีมหาโพธิ์
ที่พระพุทธองค์ประทับอยู่บนรัตนบัลลังก์แก้ว
พญามาร ได้กล่าวกับพระพุทธองค์เกี่ยวกับเรื่องสถานที่นั้น ในลักษณะหาเรื่อง..
นั้นเป็นของข้า เจ้าจงลุกออกไปเสียโดยเร็ว”
พระพุทธองค์ทางสงบสำรวมในวิหารธรรมของพระ หาได้สนใจไม่
กระทั่งพญามารกล่าวอยู่อย่างนั้นสามครั้ง พระพุทธองค์จึงได้ตรัสกลับไปด้วยความสงบว่า
“ดูก่อนพญามาร ที่ตรงนี้เป็นของตถาคตมิใช่ของผู้ใด”
“ที่ตรงนั้นเป็นของเรา พวกของเราทั้งห้าร้อยตนนี้สามารถเป็นพยาน”
“ไอ้โล้นเอย จงฟังข้า เจ้ามีพยานหลักฐานใดกันหนอที่กล่าวว่าที่ตรงนี้เป็นของเจ้า”
พระพุทธองค์อยู่ในอิริยาบถสมาธิวิหารธรรมอันสงบ ค่อยๆขยับพระหัตถ์ขวาออกจากหน้าตัก คว่ำมือ แล้วมาพาดลงตรงที่เข่า ปลายนิ้วจรดแผ่นดินแล้วตรัสว่า
“ที่แห่งนี้เป็นของตถาคตด้วยอำนาจแห่งบารมีที่บำเพ็ญมาทุกภพ
ทุกชาติที่เป็นบารมี อุปปารมี และปรมัตถบารมี บารมีทั้งสามสิบทัศ ขอแม่ธรณีจงขึ้นมาเป็นพยานแก่ตถาคต”
จากนั้นแผ่นดินเลื่อนลั่น แม่ธรณีได้ผุดโผล่มาจากพื้นดิน
ถวายบังคมนมัสการพระพุทธองค์แล้วจึงกล่าวกับพญามารและพวกว่า
“เจ้ามารร้าย จงฟังข้า...ที่ตรงนี้เป็นของตถาคตผู้ตรัสธรรมหมดกิเลสอย่างสิ้นเชิง
เป็นผู้บริสุทธิ์หมดจด พระองค์บำเพ็ญบารมีจนเต็มทุกภพทุกชาติ
ทุกครั้งที่ทรงบำเพ็ญมหากุศล ทรงหลั่งน้ำลงบนแผ่นดิน(กรวดน้ำ)
ซึ่งเราธรณีเรารู้
..และรับทราบมา..โดยตลอดทุกครั้งไป
น้ำแห่งมหากุศลที่พระองค์ทรงหลั่งลงพื้นดินนี้มีมากมหาศาลนับสุดจะพรรณนา”
“มากขนาดนั้นเชียว ...โธ่ข้าไม่เชื่อดอก”
“หากเจ้าไม่เชื่อ เราจะขยับจับผมมวยของเรา
บีบคั้นมัดเป็นเกลียวแล้วเจ้าจะรู้เองว่า
น้ำที่พระองค์ทรงหลั่งลงพื้นธรณี
นั้นมากเพียงไหนที่อยู่บนผมของเรา"
จากนั้นพระแม่ธรณีได้แก้มวยผมที่รัดเกล้านั้นออกปล่อยสยายแล้วรวบบีบมวยบิดไปมา
น้ำจากผมของแม่ธรณีไหลออกมาอย่างรวดเร็วมากถึงกับเป็นมหาสมุทรท่วมล้น
ทำเอาพญามารและพวกต้องลอยคออยู่ในห้วงมหาสมุทรนั้นอยู่นาน
ก่อนที่จะอาศัยฤทธิ์เหาะหนีไป ปล่อยให้พวกที่เหลือรับกรรม
ส่วนพระพุทธองค์ทรงลอยอยู่เหนือศรีษะของแม่ธรณี
เมื่อพญามารหนีไปแล้ว ....
แม่ธรณีกราบบังคมทูลลาแล้วกลับสู่ผืนแผ่นดินพร้อมสูบพวกเสนาพญามารนั้นไปทั้งหมดด้วย...
จากเรื่องเล่าแสดงให้เห็นอานุภาพแห่งการกรวดน้ำแผ่เมตตาว่ามีมากเพียงไหน
การปฏิบัติธรรมนั้นเป็นการสร้างมหากุศล
เมื่อสร้างกุศลแล้วกรวดน้ำแผ่เมตตานั้นย่อมแสดงให้เห็นว่าการกรวดน้ำนั้นมีผลมาก
มีอานิสงส์ใหญ่เพียงไหน ขนาดน้ำที่ออกจากมวยผม
ของพระแม่ธรณียังกลั่นมาเป็นมหาสมุทรนที ..หาค่ามิได้
้ ดังนั้น แม้เพียงกิเลสหรือความทุกข์ที่มากระทบกระเทือนจิตใจเราแล้วแต่จะมากหรือน้อย
อาจจะหาทางแก้ไขโดยหันมาใช้วิธีกรวดน้ำก็อาจเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยทำให้จิตใจของเรา....ได้คลายความทุกข์
ดังบทความของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโตที่เขียนไว้ในวิธีการกรวดน้ำ
เวลาที่ท่านไม่สบายใจหรือมีปัญหาอะไร
การกรวดน้ำอาจทำให้ความอึดอัดใจลดดลงได้บ้าง ยิ่งทำได้บ่อยมากเท่าไหร่ยิ่งดีมากเท่านั้น