10 สปาแปลกที่สุดในโลก
นิตยสารทราเวล แอนด์ ลีเชอร์ เผยรายชื่อ “10 สปาแปลกที่สุดในโลก (world’s strangest spas)” เรียบเรียงโดย อลิสัน โลเวนสไตน์ ซึ่งในจำนวนนี้มีสปา (บริการนวดแผนไทย) ในประเทศไทยรวมอยู่ด้วย
เป็นที่รู้กันว่าการเข้าร้านสปาเพื่อนวดหน้า นวดตัว หรือนวดฝ่าเท้า จะช่วยบำบัดความเมื่อยล้า ให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย ฯลฯ แต่ร้านสปาที่ “paow007″ กำลังจะนำเสนอต่อไปนี้ มีอะไรน่าสนใจมากกว่านั้น เพราะมีความโดดเด่นไม่ซ้ำใครทั้งในด้านทำเลที่ตั้ง และรูปแบบการให้บริการ จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “สปาแปลกที่สุดในโลก”
โชโดวาร์ เบียร์ เวลล์เนส แลนด์ (Chodovar Beer Wellness Land), สาธารณรัฐเช็ก
เนื่องจากสปาแห่งนี้ตั้งอยู่ภายในโรงผลิตเบียร์ ไฮไลต์เด็ดของที่นี่จึงอยู่ที่การนอนแช่ตัวในดาร์กเบียร์หรือเบียร์ดำ ผสมน้ำแร่ และยีสต์เบียร์ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรอบแห้ง 7 ชนิด ซึ่งจะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานของร่างกาย ปรับสมดุลของร่างกายและจิตใจ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ช่วยบำรุงและรักษาปัญหาต่างๆ บนผิวหนัง อาทิ สิว และโรคสะเก็ดเงิน (เรื้อนกวาง) เป็นต้น
ทรีตเมนท์ของที่นี่เริ่มจากการแช่ตัวในอ่างเบียร์ที่มีอุณหภูมิราว 34 องศาเซลเซียส นานประมาณ 20 นาที แล้วต่อด้วยการนอนห่มตัวในผ้าห่มขนแกะอีกประมาณ 25 นาที นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีบริการนวดตัวและเท้าให้เลือกหลากหลายรูปแบบอีกด้วย
บริการนวดแผนไทย ณ ทัณฑสถานหญิง จ. เชียงใหม่
ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนไม่น้อย เดินทางไปเยือนทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ เพื่อใช้บริการนวดแผนไทยและนวดฝ่าเท้าจากเหล่าผู้ต้องขังหญิงที่ผ่านการฝึกวิชาชีพหลักสูตรนวดแผนไทย
โครงการฝึกวิชาชีพดังกล่าวเป็นหนึ่งในแผนบำบัด ฟื้นฟู และแก้ไขพฤตินิสัยผู้ต้องขังที่ทางทัณฑสถานจัดทำขึ้น เพื่อให้ผู้ต้องขังสามารถออกไปประกอบอาชีพและดำรงอยู่ได้ในสังคมอย่างยั่งยืน โดยไม่หวนกลับมากระทำผิดซ้ำ
ที่นี่ คุณจะถูกนวดโดยผู้ต้องขังหญิง ภายในห้องนวดที่กว้างขวาง แลดูสะอาดตา จนคุณอาจลืมไปเลยว่ากำลังนอน (หรือนั่ง) นวดอยู่ภายในเขตเรือนจำ
เมส์ อุย สปา เทรน (Mais Oui Spa Train) แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
บูติคสปาแห่งนี้ตั้งอยู่บนโบกี้รถไฟเก่าแก่สมัยเมื่อปี ค.ศ. 1920 (พ.ศ. 2463) ซึ่งจอดแน่นิ่งอยู่ภายใน “แคลิสโตก้า เทรน ดีโป้” ในนาปา วัลเลย์ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย
สปารถไฟ “เมส์ อุย” เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ภายใต้แนวคิด “สปาระดับเวิลด์คลาสในราคาติดดิน” ภายในมีเพียง 3 เคบิน หรือ 3 ห้อง รองรับผู้ใช้บริการได้ครั้งละไม่เกิน 6 คน จึงต้องโทรฯ นัดหมายล่วงหน้าก่อนใช้บริการ
สปาลอยน้ำโบทา โบทา (Bota Bota) แคนาดา
ที่ “โบทา โบทา” คุณจะได้ผ่อนคลายความเมื่อยล้าท่ามกลางเสียงคลื่น เพราะสปาแห่งนี้ตั้งอยู่บนเรือเก่าที่สร้างขึ้นราวปี ค.ศ. 1960 (พ.ศ. 2503) ซึ่งได้รับการแปลงโฉมใหม่จนกลายเป็นสปาลอยน้ำสุดหรูนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) เป็นต้นมา
เรือสปาดังกล่าวจอดให้บริการริมฝั่งแม่น้ำเซนต์ ลอว์เลนซ์ ในเมืองมอนทรีออล โดยมีโปรแกรมยอดนิยม คือ “วอเตอร์ เซอร์กิต” ซึ่งเป็นการแช่ อาบ และอบตัว ในอ่างสปา ฝักบัว ซาวน่า และสตีมบาธ ตามด้วยการนวดตัวซึ่งมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบด้วยกัน หลังจากนั้น ลูกค้ายังสามารถออกมานั่งพักผ่อนพลางชมวิวเมืองสวยๆ บนเปลญวนที่ทางสปาจัดเตรียมไว้ให้บนเรืออีกด้วย
ฟาร์มพืชกินเนื้อ (Carnivorous Plant Farm) ของ “เอด้า บารัค” ที่อิสราเอล
ในขณะที่คนส่วนใหญ่มักขนลุกขนพองและรู้สึกหวาดกลัวเมื่อเห็นงูเลื้อยมาอยู่ตรงหน้า แต่ที่ประเทศอิสราเอล ซึ่งเป็นที่ตั้งของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ กลับมีสปาแห่งหนึ่งนำงูนานาชนิดมา “เลื้อยบำบัด” ตามลำตัวและใบหน้าของผู้ใช้บริการ
สปางูแห่งนี้เป็นของนางเอด้า บารัค หากคุณกล้าเข้าไปใช้บริการ เธอจะนำงูชนิดไม่มีพิษมาวางลงบนลำตัวของคุณ แล้วปล่อยให้พวกมันเลื้อยไปตามแผ่นหลัง ขา ท้อง เส้นผม และบนใบหน้า งูเหล่านี้จะมีขนาดและหน้าที่ๆ แตกต่างกัน โดยงูตัวใหญ่จะทำหน้าที่บีบรัดตามลำตัว ส่วนงูตัวเล็กซึ่งให้สัมผัสที่อ่อนโยนกว่าจะช่วยนวดบริเวณใบหน้า แต่ทั้งนี้ไม่ต้องกลัวว่าน้องงูจะเลื้อย รัด (หรือกัด) ผิดที่ผิดทาง เพราะนางบารัคจะคอยกำกับดูแลการเลื้อยของงูอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา
กาโลส เคฟส์ (Galos Caves) ชิคาโก
นับเป็นความโชคดีของชาวชิคาโกที่ไม่ต้องเดินทางไปเที่ยวชม “ถ้ำเกลือ” ไกลถึงประเทศโปแลนด์ เพราะผู้เชี่ยวชาญด้านสปาเกลือจากโปแลนด์และยูเครนได้ขนเกลือไครเมียนจากทะเลดำ ซึ่งมีสีชมพูและมีสรรพคุณทางการแพทย์ มาก่อสร้างถ้ำเกลือไอโอดีนที่ชิคาโก โดยเปิดบริการเมื่อปี ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) ซึ่งถือเป็นถ้ำเกลือแห่งแรกของสหรัฐอเมริกา
ทรีทเมนท์ขั้นเบสิกของที่นี่จะใช้เวลาราว 45 นาที ส่วนวิธีการนั้นก็ไม่ยุ่งยากสามารถทำได้พร้อมกันทั้งครอบครัว เพียงแค่เข้าไปนั่งพักผ่อนบนม้านั่งยาวภายในถ้ำ พลางฟังเพลงที่เปิดขับกล่อมแบบเบาๆ และสูดอากาศที่มีเกลือเข้าไป ซึ่งจะช่วยบำบัดโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร, ทางเดินหายใจ, โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคผิวหนัง, ไขข้อ, ระบบประสาท, ภูมิแพ้ และ ความดันโลหิตสูง เป็นต้น
นิวยอร์ก สปา คาสเซิล (New York Spa Castle) กรุงนิวยอร์ก
โดยส่วนใหญ่เรามักจะใช้เวลาในสปาเพียง 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ที่ “สปา คาสเซิล” ในกรุงนิวยอร์ก คุณสามารถพักผ่อนอยู่ที่นั่นได้ทั้งวัน เพราะมีทั้งหมด 5 ชั้น เนื้อที่กว้างขวางมากถึง 100,000 ตารางฟุต (กว่า 9 พันตร.ม.) ภายในประกอบด้วย สระว่ายน้ำ (หลายสระ), ห้องอบซาวน่าสารพัดรูปแบบ, ห้องนวด, ห้องเสริมสวย, ห้องพักผ่อน, ศูนย์อาหาร และภัตตาคาร เป็นต้น
สปาแห่งนี้ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากโรงอาบน้ำสาธารณะของเกาหลี (จิมจิลบัง) เมื่อติดต่อขอใช้บริการคุณจะได้รับเสื้อยืดและกางเกงขาสั้น พร้อมสร้อยข้อมืออีเล็กทรอนิกส์ สำหรับใช้เแทนกุญแจล็อกเกอร์และบัตรค่าใช้จ่าย จากนั้นจึงไปอบไอน้ำในห้องสตีมรูมและอาบน้ำก่อนเป็นลำดับแรก (เปลือยกาย แยกชาย-หญิง) หลังเสร็จขั้นตอนนี้แล้วจึงค่อยไปนอนแช่อ่าง ลงสระว่ายน้ำ หรือใช้บริการอื่นๆ ซึ่งไม่ต้องเปลือยกายอีกต่อไป จึงสามารถใช้บริการร่วมกันได้ทั้งชาย-หญิง
มาเรียนโครน (Marienkron) ออสเตรีย
สปาแห่งนี้เปิดบริการโดยเหล่าบรรดาซิสเตอร์หรือแม่ชี ซึ่งในอดีตเคยทำธุรกิจฟาร์มไก่ แต่หลังเลี้ยงไก่แล้วไม่รุ่ง จึงหันมาเอาดีกับการเปิดศูนย์สุขภาพ นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) เป็นต้นมา
ทรีทเมนท์เด็ดของที่นี่คิดค้นโดยบาทหลวงสมัยศตวรรษที่ 19 ซึ่งเลือกนำน้ำแร่เย็นจัดมาฉีดตามลำตัวผู้เข้ารับการบำบัดผ่านทางสายยางแรงดันสูง เพื่อรักษาอาการปวดเมื่อยและช่วยกระตุ้นการทำงานของผิวหนัง นอกจากนี้ ยังมีโปรแกรมนวดกระตุ้นระบบการไหลเวียนของน้ำเหลือง, การทำงานของลำไส้ใหญ่ ฯลฯ และคลาสฟิตเนส ซึ่งจะมีการฝึก “ชี่กง” ให้ผู้สนใจด้วย
สปาใต้น้ำไลม์ สปา (Lime Spa) มัลดีฟส์
มัลดีฟส์ มีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องบังกะโลหรูเหนือผิวน้ำที่มีพื้นเป็นกระจกใส และภัตตาคารใต้น้ำ แต่ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจและมีความโดดเด่นไม่แพ้กัน นั่นก็คือ “สปาใต้น้ำแห่งแรกในโลก” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรีสอร์ท “ฮูวาเฟน ฟูชิ มัลดีฟส์” ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะมาเล่
สปาใต้น้ำแห่งนี้อยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติมาเล่เพียง 30 นาที (ในกรณีที่เดินทางโดยสปีดโบ๊ท) ที่นี่…จะมีปลาและสัตว์น้ำนานาชนิดแวะเวียนมาทักทายและจ้องมองในระหว่างที่คุณกำลังทำทรีทเมนท์ ซึ่งมีรายการให้เลือกหลากหลายไม่ว่าจะเป็นการนวดตัวและศีรษะแบบอโรมา การขัดผิวด้วยเกลือทะเล และการนวดตัวด้วยน้ำมันสมุนไพร เป็นต้น
เดอะ สปา แอท เดอะ ไฟเออร์เฮ้าส์ (The Spa at The Firehouse) รัฐไอโอวา สหรัฐอเมริกา
เมื่อกว่า 100 ปีก่อน สถานีดับเพลิงแห่งนี้มีม้าฝีเท้าดีประจำการอยู่ 2 ตัว ม้าทั้ง 2 ตัวนี้มีชื่อว่า “แจ็ค” ซึ่งนอกจากจะทำหน้าที่ลากรถ (เกวียน) ดับเพลิงเวลาเกิดเหตุด่วนเหตุร้ายแล้ว ยังคว้าแชมป์ลากรถดับเพลิงมาแล้วหลายรายการด้วยกัน
ปัจจุบัน สถานีดับเพลิงแห่งนี้ไม่มีม้ามาประจำการแล้ว แต่ยังคงเปิดให้บริการภายใต้รูปแบบสถาปัตยกรรมแบบเิดิมๆ เพียงแต่เปลี่ยนหน้าที่จากดับไฟ มาช่วยดับความเครียดและเสริมสร้างความงามแทน