เซ็กส์ที่ปลอดภัยสำหรับเกย์
การมีเพศสัมพันธ์ โดยไม่ได้ป้องกัน เพียงครั้งเดียว อาจทำให้เรา เสียใจไปตลอดชีวิตได้ อย่าให้อารมณ์เพียงชั่ววูบ ทำลาย ชึวิตคุณ เซ็กที่ปลอดภัยสำหรับเกย์ เป็นอย่างไร คุณเคย เรียนรู้ หรือไม่?
กิจกรรมทางเพศซึ่งทำให้เกิดการถ่ายทอดหรือติดต่อของโรคเอดส์ได้ ต้องประกอบไปด้วยสิ่งเหล่านี้ :
- ผู้ที่มีเชื้อเอดส์ ( HIV+)
- ของเหลวจากร่างกายซึ่งมีเชื้อ HIV อยู่ เช่น เลือด น้ำอสุจิ น้ำเมือกหล่อลื่นจากอวัยวะเพศ (pre cum)
- เชื้อ HIV ที่มากพอในของเหลว นั้น
- คนอีกหนึ่งคน
- วิธีที่เชื้อ HIV จะถ่ายทอดเข้าสู่กระแสเลือด ของอีกคนหนึ่ง
ถ้าปราศจากสิ่งใดสิ่งหนึ่งข้างต้น โรคเอดส์ไม่สามารถติดต่อหรือถ่ายทอดได้
การจูบและกอดโรค เอดส์ไม่สามารถถ่ายทอดหรือติดต่อได้ทางน้ำลาย เนื่องจากในน้ำลายมีปริมาณเชื้อ HIV น้อยมาก ยังไม่มีหลักฐานว่าการจูบและการกอดนั้นนำมาสู่การแพร่เชื้อ HIV อย่างไรก็ตามน้ำลายสามารถทำให้เราติดเชื้อโรคอย่างอื่นได้ เช่น ไวรัสตับอักเสบบี ฯลฯ ควรหลีกเหลี่ยงการจูบในกรณีที่ :
- มีแผลเปิด บริเวณปากหรือในช่องปาก
- มีเลือดออก ที่ริมฝีปากหรือเหงือก (เนื่องจากมีเลือดออก เชื้อ HIV สามารถถ่ายทอดได้ในกรณีนี้ แต่โอกาสค่อนข้างน้อย)
การช่วยตัวเองหรือสำเร็จความใคร่HIV ไม่สามารถติดต่อหรือถ่ายทอดได้โดย :
- การช่วยตัวเอง ไม่ว่าคนเดียวหรือกับบุคคลอื่น
- การนวด สัมผัส ลูบไล้
- การ หลั่งบนตัว หรือผิวหนัง (ซึ่งไม่มีแผลเปิด หรือถลอก) ควรหลีกเหลี่ยงการใช้น้ำอสุจิ หรือน้ำ pre cum เอามาทำการหล่อลื่น เนื่องจากเชื้อHIV สามารถเข้าไปในกระแสเลือดได้ ผ่านทางรอยถลอก และช่องเปิดตรงปลายอวัยวะเพศชาย
การใช้ปากกับอวัยวะเพศ (Oral Sex)เป็น เรื่องยากที่ เชื้อ HIV จะเข้าสู่กระแสเลือด ทางปากและลำคอ มีคนจำนวนน้อยที่ติดเชื้อ HIV จากการทำ oral sex ส่วนใหญ่ในจำนวนนั้น เกิดจากการมีแผล, แผลเปิด หรือการติดเชื้อ ในช่องปาก แม้แต่การแปรงฟันก็ทำให้เกิดแผลในช่องปากหรือเลือดออก ที่เหงือกได้ง่าย การป้องกันคือ ไม่ควรหลั่งในปาก และไม่ควรใช้ปากในกรณีที่:
- มีแผลในปาก
- มีน้ำหล่อลื่น (pre-cum) หลั่งตรงปลายอวัยวะเพศของอีกฝ่าย
- อวัยวะเพศสกปรก หรือเป็นโรคผิวหนัง
ถ้าไม่แน่ใจ วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือ การสวมถุงยางอนามัยก่อน ทำการออรัลเซ็ก
การใช้ปากกับทวารหนัก (Rimming)การ ใช้ปากหรือลิ้นกับทวารหนัก ไม่ทำให้ติดเชื้อ HIV แต่อาจทำให้ติดโรคอื่นๆ ได้ เช่น โรคตับอักเสบ โรคพยาธิ โรคกระเพราะและลำไส้อักเสบ ฯลฯ สามารถใช้พลาสติกใส สำหรับห่ออาหาร หรือ dental dam เพื่อเป็นการป้องกันได้ (ไม่ควรใช้พลาสติกใสแบบที่ใช้กับ ไมโครเวฟได้ เนื่องจากมีรูเล็กๆ บนเนื้อพลาสติก)
การมีเพศสัมธ์แบบสอดใส่ทางทวารหนัก (Anal Sex)เป็นฝ่ายรับ (Passive)ถ้าคุณไม่มีเชื้อเอดส์ (HIV-)และอีกฝ่ายซึ่งเป็นฝ่ายรุก ไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัย การกระทำนี้สามารถทำให้คุณได้รับเชื้อ HIV ได้ ถ้าคุณไม่ทราบแน่ชัดว่าอีกฝ่ายมีเชื้อ HIV หรือไม่ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่ามีเชื้อ HIVเพื่อความไม่ประมาท น้ำอสุจิหรือน้ำหล่อลืน(pre cum)ซึ่งมีเชื้อ HIV สามารถเข้าสู่กระแสเลือดได้ ผ่านทางเนื้อเยื่อบางๆ หรือรอยถลอก ในทวารหนัก จากการมีเพศสัมพันธ์ วิธีป้องกันที่ปลอดภัยที่สุดคือ การสวมถุงยางอนามัยให้คู่ของคุณ
เป็นฝ่ายรุก (Active)ถ้าคุณไม่มีเชื้อเอดส์ (HIV-) และมีเพศสัมพันธ์แบบสอดใส่โดยไม่ใช้ถุงยามอนามัย การกระทำนี้สามารถทำให้คุณติดเชื้อ HIV ได้ หลายคนคิดว่าการเป็นฝ่ายรุก เชื้อเอดส์ (HIV) ไม่สามารถเข้าสู่กระแสเลือดได้ เป็นความคิดที่ผิด เชื้อเอดส์(HIV)ผ่านเข้ามาในอวัยวะเพศคุณได้ โดยผ่านทางรูเปิดตรงปลายของอวัยวะเพศ และ รอยถลอก ของอวัยวะเพศ ซึ่งเกิดจากการเสียดสี (ตรงปลายอวัยวะเพศเป็นเนื้อเยื่อบาง สามารถเกิดการถลอกได้ง่าย โดยที่เราไม่รู้ตัว) วิธีป้องกันที่ดีที่สุด คือ การสวมถุงยางอนามัย
การหลั่งภายนอกการหลั่งภาย นอก(หรือนำอวัยวะเพศออก ก่อนถึงจุดสุดยอด) ไม่ได้ป้องกันคุณจากการติดเชื้อเอดส์แต่อย่างใด หลายคนเข้าใจผิดและไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัยเพื่อความตื่นเต้น การหลั่งภายนอกสามารถทำให้คุณติดเชื้อเอดส์ได้เนื่องจาก :
- ถ้าคุณเป็นฝ่ายรุก เลือดของอีกฝ่ายสามารถเข้าไปในอวัยวะเพศของคุณได้ผ่านทางรูเปิดตรง ปลายอวัยวะเพศ และรอยถลอกเพียงเล็กน้อยที่อวัยวะเพศคุณ
- ถ้าคุณเป็น ฝ่ายรับ ไม่สามารถการันตีได้ว่าคู่ของคุณจะสามารถ นำอวัยวะเพศออกมาได้ทันเวลาในการหลั่ง ถึงแม้ว่าไม่ได้หลั่งภายในแต่ ฝ่ายรุกบางคนมีน้ำหล่อลื่น(pre cum) ออกมาขณะมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งนำไปสู่การติดเชื้อ HIV ได้ วิธีที่ดีที่สุด คือการใส่ถุงยางอนามัย ผู้ติดเชื้อ HIV+ บางราย บอกว่าพวกเขาไม่ทราบว่าการหลั่งภายนอกนั้น สามารถทำให้ติดเชื้อเอดส์ได้
โรคเอดส์ป้องกันได้ถ้าไม่ประมาทด้วยการสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ !