หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

แฉชีวิตบัดซบคุณยายพิการตาบอด-อัมพฤกษ์วัย83ปีตระเวณขอทานเลี้ยงชีพ

โพสท์โดย น้องสาวเถ้าแก่เนี้ย

 

แฉชีวิตบัดซบ “คุณยายเล็ก” หญิงชราวัย 83 ปี-ทายาทตระกูลดัง “ณ.ถลาง”   ตกยาก -พิการตาบอดและป่วยเป็นอัมพฤกษ์ไร้คนเหลียวแล-ตระเวนขอทานหาเงินซื้ออาหารประทังชีวิต-ยืนยันไม่ขอไปอยู่บ้านมิตรไมตรี – ชาวบ้านแฉยายขอทานได้เงินถูกหลานทรพีข่มขู่เอาเงินไปหมด

เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 3 ธ.ค. 2555 ผู้สื่อข่าวจากชมรมนักข่าวจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เดินทางไปตรวจสอบที่พักของนางเล็ก ประไพรัด อายุ 83 ปี หญิงชราพิการตาบอดและร่างกายเป็นอัมพฤกษ์ ที่นั่งขอทานท่ามกลางสายฝนบริเวณป้ายรถบัสประจำทาง ริมถนนราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หน้าโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราชอยู่หลายวันแล้ว ในสภาพเสื้อผ้าเปียกปอน ในขณะถุงอาหารที่วางอยู่ข้างตัวมีแมลงวัน แมลงหวี่ และมดไต่ตอมเต็มไปหมด เป็นที่น่าเวทนาแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก นักเรียนของโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช จึงเข้าไปช่วยพัดวีไล่มดไล่แมลงให้ด้วยความสงสาร พร้อมพูดคุยสอบถามจนทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าในปัจจุบันคุณยายเล็ก ประไพรัด ได้ขออาศัยอยู่กับเพื่อนบ้านในซอย 4 ชุมชนสถานีรถไฟ ต.ท่าวัง อ.เมือง จ. นครศรีธรรมราช จึงแจ้งให้นางรัชนี พวงมาลี หัวหน้าบ้านมิตรไมตรี จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นหน่วยงานสังกัดกรมพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และเจ้าหน้าที่ได้เดินทางมาช่วยเหลือโดยขอนำตัวคุณยายเล็กไปอาศัยที่บ้านบ้านมิตรไมตรี แต่คุณยายเล็ก ไม่ยอมไปอ้างว่าไม่อยากเป็นภาระของคนอื่น และยังเป็นห่วงหลานชายที่ป่วยเป็นมะเร็งในสมองกำลังเข้ารับการผ่าตัดที่ รพ.มหาราช 



จากการสอบถามหาที่พักอาศัยของคุณยายเล็กในซอย 4 ชุมชนสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช จึงทราบว่านางเล็ก ได้ขออาศัยอยู่ในบ้านเลขที่ 1875/6 ซอย 4 ชุมชนสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านของของนางแช่ม ณ.มาพร อายุ 78 ปี โดยทางลูกหลานของนางแช่ม ได้จัดที่หลับนอนไว้ให้นางเล็ก บริเวณมุมหนึ่งของห้องด้านหลังบ้าน โดยมีเตียงเล็ก ๆ พร้อมข้าวของเครื่องใช้เก่า ๆ ของนางเล็ก ไม่กี่ชิ้นวางอยู่อย่างกระจัดกระจาย แต่ไม่พบคุณยายเล็ก ทราบว่าออกไปตระเวณขอทานที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร 

“บรรดาลูก ๆ ของนางแช่ม เจ้าของบ้านเล่าว่า เดิมทีคุณยายเล็กและสามีได้เช่าบ้านอาศัยอยู่ในชุมชนสถานีรถไฟมาหลายสิบปี มีบุตรชาย 1 คนชื่อนายแดง ประไพรัด ปัจจุบันนายแดง บุตรชายของคุณยายเล็ก น่าจะมีอายุประมาณ 60 ปีเศษ โดยครอบครัวของคุณยายเล็ก เป็นที่รู้จักสนิทสนมกับนางแช่ม และคนในชุมชนเป็นอย่างดี จนกระทั้งนายแดง บุตรชายแยกไปมีครอบครัวและนำหลานมาให้คุณยายเล็กและสามีเลี้ยงจำนวน 3 คน ในปัจจุบันหลาน ๆ ของคุณยายเล็กได้แยกย้ายออกไปมีครอบครัวกันหมดแล้ว ส่วนนายแดง บุตรชายทราบว่าไปอาศัยอยู่ในจังหวัดขอนแก่น และต่อมาสามีของคุณยายเล็กได้เสียชีวิต คุณยายเล็ก จึงอาศัยอยู่คนเดียวและประกอบอาชีพหาบเร่ขายอาหารประเภทยำ” 



 

แต่เนื่องจากคุณยายเล็ก มีอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงมีปัญหาเรื่องสุขภาพ โดยทั้งดวงตาข้างมองเห็นเลือนลาง และร่างกายซีกซ้ายยังเป็นอัมพฤกษ์อีกด้วย อย่างไรก็ตามที่ผ่านมานางเล็กเป็นคนไข้ในโครงการ 20,000 เตียง โรงพยาบาลเทศบาลนคร นครศรีธรรมราชซึ่งได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างใกล้ชิด แต่ในระยะกว่า 1 ปีที่ผ่านมาทางเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช กลับทอดทิ้งไม่ให้การช่วยเหลือดูแลเหมือนเมื่อก่อน ส่งผลให้ดวงตาข้างขวาบอดสนิทเหลือตาข้างซ้ายที่มองเห็นเพียงลาง ๆ เล็กน้อย ในขณะที่อาการป่วยอัมพฤกษ์ก็ลุกลามรุนแรง จนไปไหนมาไหนด้วยตนเองไม่ได้ จนเมื่อหลายเดือนก่อนคุณยายเล็ก เกิดเป็นไข้นอนซมอยู่ในบ้านเช่าไร้คนเหลียวแล เพื่อนบ้านจึงช่วยนำส่ง รพ.มหาราช หลังจากที่รักษาตัวอยู่ระยะหนึ่งแพทย์อนุญาตให้กลับบ้าน คุณยายเล็กจึงมาขออาศัยอยู่กับนางแช่ม ที่บ้านหลังดังกล่าว 

แม้ตาจะพิการร่างกายเป็นอัมพฤกษ์ แต่ยายเล็กไม่ยอมเป็นภาระของนางแช่ม และลูก ๆ ของนางแช่ม จึงตัดสินใจออกไปตระเวนขอทานหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่าย ทั้งค่าอาหาร ค่ายาที่ซื้อจากคลินิกหรือร้านขายยาครั้งละ 700-800 บาท โดยทุกวัน จะว่าจ้างให้นายเจริญ วิทยาพล อายุ 60 ปี คนถีบรถสามล้อรับจ้างพาไปปล่อยให้นั่งขอทานจากผู้ใจบุญ ซึ่งในช่วงแรก ๆ ตนไปนั่งขอเศษเงินจากผู้ที่ผ่านไปผ่านมาบริเวณหน้าร้านทองย่านตลาดท่าวัง อ.เมือง แต่ถูกเจ้าของร้านและตำรวจมาขับไล่ จึงเปลี่ยนให้รถสามล้อมาส่งนั่งขอทานในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร รวมทั้งบริเวณป้ายจอดรถประจำทางหน้าโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช โดยจะเริ่มไปนั่งขอทานตั้งแต่ 7 โมงเช้า จนถึง 5 โมงเย็นนายเจริญ ก็จะถีบรถสามล้อมารับกลับบ้านนางแช่ม 

 


ต่อมาในเย็นวันเดียวกันนี้ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตามหานางเล็ก ที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร พบนางเล็กนั่งขอทานอยู่บริเวณประตูทางเข้าวัด ด้านวิหารหลวง ซึ่งพบว่าชาวบ้านและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ต่างเอ็นดูสงสารนางเล็ก จึงได้หยิบยื่นเศษเงินให้กับนางเล็กอย่างต่อเนื่อง คาดว่านางเล็กจะมีรายได้จากการขอทานวันละไม่ต่ำกว่า 500 บาท 

นางเล็ก ประไพรัด เปิดเผยว่า เดิมทีตนเป็นคนจังหวัดพังงาบิดาเป็นตำรวจชื่อ “ถวิล ณ.ถลาง” แต่เนื่องจากบิดาเลิกรากับมารดาตั้งแต่ตนยังเล็ก ๆ และมารดาของตนได้ขายตนให้กับครอบครัว ๆ หนึ่ง จนกระทั้งตนมาได้สามีเป็นคนนครศรีธรรมราช จึงย้ายมาอยู่กับสามีและพยายามจะออกตามหาบิดามารดาแต่ไม่พบบิดามารดามาจนถึงทุกวันนี้ เข้าใจว่าทั้งบิดาและมารดาคงจะเสียชีวิตไปหมดแล้ว 

เจ้าหน้าที่จากบ้านมิตรไมตรี มารับตนไปเลี้ยงดูอุปการะ แต่ตนไม่ยอมไปอยู่ด้วยอย่างแน่นอน เพราะตนเป็นคนพิการ เป็นอัมพฤกษ์ คงเป็นภาระกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่เขาจะมาคอยดูแลตนให้สุขสบายได้อย่างไร เข้าตำราคับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก ตนจึงขอใช้ชีวิตขอทานเลี้ยงตัวเองในลักษณะนี้ไปจนวันตาย ซึ่งก็คงอีกไม่กี่ปีตนคงจะตายแล้ว ในปัจจุบันเงินที่ได้จากการขอทานนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายมากมาย อาทิ จ่ายช่วยเหลือครอบครัวนางแช่ม ที่ตนขออยู่อาศัยเดือนละ 600 บาท ค่ายารักษาอัมพฤกษ์ ค่าอาหารการ ค่าซักผ้าและเครื่องใช้สอยต่าง ๆ รวมทั้งค่าเหมารถสามล้อรับจ้าง ที่เหลือเล็กน้อยก็ฝากไว้กับลูกของนางแช่ม สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายคราวจำเป็นหรือจัดงานศพเมื่อตนเสียชีวิต 



ในขณะที่พ่อค้าแม่ค้าในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร กล่าวว่า คุณยายเล็กเป็นคนที่น่าสงสา ก่อนหน้านี้คุณยายเล็ก เคยไปอาศัยอยู่กับหลานชายและหลานสะใภ้ แต่เนื่องจากคุณยายเล็กเป็นคนพิการตาบอด และเป็นอัมพฤกษ์ กลายเป็นภาระหนักของหลานชายและหลานสะใภ้ ในที่สุดจึงขับไล่ไม่ยอมให้อยู่ด้วย คุณยายเล็กจึงซมซานมาขออาศัยอยู่กับนางแช่ม และยึดอาชีพขอทานเลี้ยงชีวิ โดยในวันหนึ่ง ๆ คุณยายเล็กน่าจะมีรายได้เกิน 1,000 บาท แต่ถูกหลานชายและหลานสะใภ้มาข่มขู่เอาเงินที่ได้จากการขอทานของคุณยายเล็กเป็นประจำ พ่อค้าแม่ค้าในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารเห็นเหตุการณ์เป็นประจำ อย่างไรตามในปัจจุบันหลานยายของคุณยายเล็ก ล้มป่วยเป็นมะเร็งในสมอง เข้ารับการรักษาและผ่าตัดอยู่ในโรงพยาบาลมหาราชอาการเป็นตายเท่ากัน ทำให้คุณยายเล็กเหลือเงินเก็บมากกว่าที่ผ่าน ๆ มา 

ในขณะที่นางรัชนี พวงมาลี หัวหน้าบ้านมิตรไมตรี จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า กรณีเช่นนี้ ทางบ้านมิตรไมตรี คงจะไม่ปล่อยไปเฉย ๆ แน่นอน แม้ว่าคุณยายเล็ก จะแสดงความประสงค์ไม่ขอมาอยู่กับเรา แต่ตนคิดว่ากรณีคุณยายเล็กน่าจะหาทางออกที่ดีกว่านี้ได้ จะปล่อยให้หญิงชราวัย 83 ปี สายตาพิการ ร่างกายเป็นอัมพฤกษ์ มานั่งขอทานอยู่เช่นนี้ไม่ได้ ในเบื้องต้นจะให้เจ้าหน้าที่บ้านมิตรไมตรีเดินทางติดตามไปยังที่พักอาศัยของคุณยายเล็ก เพื่อตรวจสอบดูว่าเราพอที่จะยื่นมือเข้าไปให้ความช่วยเหลือด้านใดได้บ้าง โดยเฉพาะกรณีที่คุณยายเล็ก มานั่งขอทานเป็นความต้องการหรือสมยอมของคุณยายเล็กเอง หรือโดนใครข่มขู่บังคับเพื่อหาประโยชน์จากคุณยายเล็ก นางรัชนี กล่าวในที่สุด.

 




⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
116 VOTES (4/5 จาก 29 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
พฤติกรรมและวัฒนธรรมแปลกประหลาด แต่เป็นเรื่องปกติของผู้คนในอิตาลี ที่คุณอาจจะสงสัยและไม่รู้มาก่อน!ช็อตฮาประชาชี : บ้านญาติบรรยากาศแบบนี้ ต้องหาคนมานอนเป็นเพื่อนหน่อยเน่อ ไม่งั้นหลอนแน่ๆคืนชีพผักเหี่ยวแบบง่ายๆ..ให้กลับมาสดใสอีกครั้งปลัดทรงสืบ แฝงนั่งชิลล์อยู่ริมหาดจอมเทียน เจอเหตุรัวปืนเตือนแล้วไม่ฟัง ต้องบังให้มิดเขมรเคลมอีก! การละเล่น"ชักกะเย่อ" มีต้นกำเนิดจากกัมพูชาภาพหลักฐานสลักบนกำแพงชัดเจน?อดีตผู้บริหารหญิง Google ไทย เมาแล้วขับ ลาออกเมื่อต้นปี..ทั้งนี้ยังมาก่อเหตุซ้ำอีก!ภาพถ่ายจากกล้องอินฟราเรด เชอร์โนบิลจากเหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เผยเขตหวงห้ามนางเอกชื่อดังของญี่ปุ่น ประกาศว่าแต่งงานแล้ว!!
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ช็อตฮาประชาชี : บ้านญาติบรรยากาศแบบนี้ ต้องหาคนมานอนเป็นเพื่อนหน่อยเน่อ ไม่งั้นหลอนแน่ๆอดีตผู้บริหารหญิง Google ไทย เมาแล้วขับ ลาออกเมื่อต้นปี..ทั้งนี้ยังมาก่อเหตุซ้ำอีก!นางเอกชื่อดังของญี่ปุ่น ประกาศว่าแต่งงานแล้ว!!อดีตหัวหน้าพรรคคนดัง ย้ายซบ ปชป. ตอบแทนบุญคุณช่วยเป็น สส. สมัยแรกแล้งหนัก...ประปาไร้น้ำ เกาะพีพีต้องซื้อน้ำใช้
ตั้งกระทู้ใหม่