มาดูประวัติและหน้าตาของ windows ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
Windows 1.01 (1985)
รูปร่างหน้าตาแบบนี้ ถ้าเพื่อนคนไหนเคยใช้มันผมจะไม่เรียกผู้นั้นว่าเพื่อนๆอีกแล้วละ ควรจะเป็นพ่อๆ มากกว่า>< รูปร่างหน้าคาจัดได้ว่า โบราณสุดๆ
Windows 1.03 (1986)
Windows 2.03 (1987)
Windows 2.86 (1989)
ของทุกอย่างต้องมีการพัฒนาโดย เวอร์ชั่นนี้มีโปรแกรมที่เรารูปจักกันดีเข้ามาอยู่ด้วยก็คือโปรแกรม Paint และเครื่องคิดเลข
Windows 3.0 (1990)
เริ่มมีลูกล่นมากขึ้นเรื่อยๆ มีเกมให้เล่นล่ะ
Windows NT 3.1 (1993)
ทุกคนเอยเห็นเกมหน้าตาคุ้นๆไหม ^^
Windows NT 3.51 Workstation (1995)
เป็นเวอร์ชั่นที่เริ่มมีอีเมล์ และมีอินเทอร์เน็ตใช้งาน
Windows 95 (1995)
ผมภูมิใจนำเสนอมันมากเพราะผมเคยใช้มันกับมือผมเอง ตอนนั้นไม่ได้สนใจกับมากสนใจแต่เกม ซึ่งเกมที่เล่นก็คือ Red alert ภาคแรก และเกม Doom 2 ฮาๆ ใครเคยเล่นยกมือขึ้นเป็นเพื่อนคนแก่คนนี้หน่อย อิอิ
Windows NT 4.0 (1996)
Windows NT Server 4.0 (1996)
Windows 98 (1998)
Windows 2000 (2000)
Windows 2000 Server (2000)
Windows ME (2000)
คุ้นหน้าคุ้นตามันไหมครับ เพื่อนผมสมัยนั้นบอกว่า วินโดว์นี้ไว้สำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ ซึ่งปัจจุบันก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า ฮาๆ ไม่ได้สนใจ
Windows XP (2001)
ใครไม่คุ้นมันก็ไม่รู้จะกล่าวสุนทรพจน์ใดแล้ว เพราะมันเป็นที่ยอดฮิตมาก ปัจจุบันก็เห็นกันอยู่เต็มไปหมด มันเป็นเวอร์ชั่นที่หนังเหนียวที่สุดเลยก็ว่าได้ ตั้งแต่ปี 2001 ปัจจุบัน 2012 ก็ 11 ปีได้แล้ว คอมที่ผมซื้อเครื่องแรกก็ได้เจ้าวินโดว์นี้ติดเครื่องมา พร้อมกับเกม The sim 1 ฮาๆ (พูดแต่เรื่องเกม ><)
Windows Server 2003 (2003)
Windows Vista (2006)
มันเป็นวินโดว์ที่ตั้งความหวังไว้ว่าจะเขี่ยวินโดว์ Xp ให้ตกกระป๋องแต่ผิดคาด ช่วงแรกทุกคนต่างตื่นเต้นกับมันไปไหนมาไหนก็พูดว่าเปลี่ยนไปใช้วินโดว์ Vista ยัง สักพักได้เรื่องที่สรุปว่าดีแต่หน้าตา แต่ระบบมันไม่ได้เรื่อง ทุกคนก็ต้องกลับไปง้อปฟนเก่า วินโดว์ Xp ตามเคย
Windows 7 (2009)
Microsoft หลังจากหน้าแตกกับวินโดว์ Vista ก็ได้ออกเจ้าวินโดว์นี้มาเป็นตัวกู้หน้าให้ แต่เนื่องจากคนส่วนใหญ่ที่ประสบกับความง้อแงของน้อง Vista แล้วก็ยังไม่ได้เปลี่ยนไปใช้โดยทันที่ทันทีทันใด เจ้าตัวนี้จึงเปิดตัวได้ไม่ค่อยเป็นที่น่าตื่นเต้น เหมือนน้อง Vista หลังจากออกก็จะมีการถามกันเวลาพบเจอในหมู่เพื่อนฝูงว่า วินโดว์ 7 กากเหมือน Vista ป่าว ฮาๆ แต่เมื่อมีคนลองใช้แล้วบอกว่ามันดี ก็เริ่มเป็นที่แพร่หลายจนถึงปัจจุบัน