หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

M1911 สัญชาติไทย

โพสท์โดย Saw-Gunner

                                         

           M1911 ปืนกพอมตะไม่มีวันตาย ที่เราหลายๆคนรู้จัก(และอีกหลายๆคนก็ไม่เคยรู้จัก) ก็ได้ครบรอบอายุ 101 ปี นับแต่วันที่มันเข้าประจำการในปี 1911 ( ซึ่งเอาเข้าจริงๆแล้ว  john moses browning ออกแบบปืนกระบอกนี้ตั้งแต่ปี 1903 ) นับแต่ปืนกระบอกนี้ออกสู่สายตาชาวโลก ปืนพกขนาด .45 รุ่นนี้สามารถทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม แม่นยำ น่าเชื่อถือ และปฏิบัติการวางใจได้ปลอดภัย อีกทั้งใช้งานได้ง่าย ทำให้มันถือว่าเป็นอีกหนึ่งสุดยอดนวัตกรรมแห่งยุคในโลกอาวุธปืนที่ไม่มีใครรู้จัก 

                                                                        

                                                           john moses browning  ผู้ออกแบบปืนพก .45 M1911

                                                                                 

                         

                                                                   ในรูปปืน พกขนาด .45 M1911A1 

 

ระสุนปืนพกขนาด .45 ACP ( Automatic Colt Pistol ) ก็มีประวัติยาวนานไม่แพ้กัน กระสุนขนาด .45 Long Colt ที่ใช้ในปืนลูกโม่ซิงเกิ้ลแอคชั่น Colt SAA นั้นก็ได้พิสูจน์ให้เห็นทั้งในการพิชิตตะวันตก ไปจนถึงปราบกบฏโมโรในฟิลิปินส์ ว่ามีอานุภาพมากกว่ากระสุนขนาด .38 Special หรือ .38 Super กระสนุหน้าตัดขนาด .45 จึงกลับมาอีกครั้งเพื่อใช้กับปืนออโต้ Colt M1903-1910 อีกครั้ง และกลายมาเป็นต้นกำเนิดของ M1911 ในเวลาต่อมา และถือเป็นกระสุนคู่บุญกับปืนรุ่นนี้มาตลอด 100ปี 

                                    

                                    จากภาพ Colt SAA ( Single Action Army ) ผู้พิชิตตะวันตกและกบฏโมโร ในฟิลิปินส์

M1911 เป็นปืนพกที่ถูกลอกแบบมากที่สุดกระบอกนึงของโลก หลังสิทธิบัตรของ Colt หมดอายุลง Colt ได้ต่อสิทธิบัตรในชิ้นส่วนบางชิ้นไว้เท่านั้น แต่ระบบรีคอยล์ ไม่ได้จดไว้ อีกทั้งในช่วงที่สงครามโลกครั้งที่ 2 มีการกระจายแบบพิมพ์เขียว M1911 ของรัฐบาลไปตามโรงงานต่าง (ชนาดบริษัท SINGER ที่ผลิตจักรเย็บผ้า ก็ยังได้รับพิมพ์เขียวไปผลิต ฮาไม่ใช่น้อย ) ลิขสิทธ์ก็ไม่ได้เป็นของ Colt อีกต่อไป จึงทำให้มีบริษัทปืนมากมายทั่วโลกหลังทศวรรษที่ 50 ผลิตปืน Colt M1911A1 ออกมาเป็นล่ำเป็นสันตั้งแต่ค่ายอเมริกา มาจนถึงค่าย นอรินโก้ของจีน และไม่เพียงแต่จีนเท่านั้นในไทยเองก็เช่นกันครับ นับแต่ปืนพกประจำการของไทยสมัยตั้งแต่ Brownign M1900 หรือปืน เมาเซอร์ด้ามไม้กวาดสมัยรัชกาลที่ 5 ปืนพกของกองทัพไทยค่อนข้างมีจำกัดและน้อยมาก ส่วนใหญ่จะมีอยู่กับตัวนายทหารระดับสูง หรือเสนาบดีกลาโหม ในสมัยสมบูรณาญาสิทธิราช ( ปืนพกประจำกายของพระองค์เจ้าวรเดชคือ Brownign M1900 ครับ  )  และด้วยระบบตรวจสอบปืนที่ยังไม่ค่อยเป็นรูปเป็นร่างสักเท่าไหร่ ในสมัยนั้นทำให้บ่อยครั้ง ปืนหายไปจากคลัง 

                                             

                                                                จากภาพ ปืน Browning M1900

                                                 

                                              จากภาพ ปืน Mauser C96 หรือ เมาเซอร์ ด้ามไม้กวาด

 

ลังปฏิวัติการปกครองปี พศ 2475 ในช่วงปี 2480 จอมพล ป.พิบูลสงคราม จึงมีความคิดว่า ควรจะมีการผลิตอาวุธเพื่อใช้เองในประเทศ เมื่อกอปรกับแนวคิดชาตินิยมในตอนนั้น จึงได้มีการเริ่มผลิตขึ้นโดยทันที เพื่อใ้ห้เพียงพอต่อเจ้าหน้าที่ราชการ โดยเริ่มต้นด้วย ปพ.80 ของ

Star Firearms ประเทศสเปน ซึ่งไทยซื้อลิขสิทธ์มาตั้งแต่ปี 1935 แต่อายุอานามของ ปพ.80 ก็อยู่ได้ไม่นานนักเนื่องจาก นายพลฟรังโ้ก้ก่อสงครามกลางเมืิองในประเทศสเปน เครื่องจักรเพื่อการผลิต และพิมพ์เขียวทั้งหมดถูกเผาทำลาย และปืนต้นแบบที่จะส่งมามอบให้ไทย รวมถึงปืนทดสอบจำนวนหนึ่ง ถูกขโมยออกไปในช่วงสงครามกลางเมืองสเปนด้วย สตาร์จึงจำเป็นต้องยุติสัญญาการผลิต และยุติสายการผลิตในกรุงเทพฯ ลงด้วย ที่น่าแปลกใจที่สุดก็คือในประเทศสหรัฐฯอเมริกา ปพ.80 หลุดข้ามน้ำข้ามทะเลไปถึงที่นั้นด้วย และที่สำคัญยังเป็นปืนพกกลมีคันบังคับการยิงอัตโนมัติได้ มีการคาดคะเนกันว่า ปพ.80 มีอยู่ไม่ถึง 100 กระบอกในโลก และกระสุนนั้นมีออกมาทั้งขนาด 9x19 Parabellum และ 9X23 Largo ซึ่งมีความเร็วสูงกว่า 9 มม พาราฯ มาก

                                           

                                                                               จากภาพ ปพ.80 

 

และเมื่อสงครามโลกครั้งที่สอง ได้อุบัติขึ้น และยุติลงในช่วงนั้นไทยได้รับปืนพกแบบนัมบุจากญี่ปุ่นเข้ามาประจำการบางส่วน และ ป.99 หรือปืนเล็กยาวแบบ Arisaka มาจากญี่ปุ่นจำนวนมาก แต่เมื่อสงครามสิ้นสุดลง และชัยชนะเป็นของฝ่ายสัมพันธมิตร ญี่ปุ่นถูกระงับไม่ให้ผลิตอาวุธใดๆอีก Supply กระสุนของญี่ปุ่นจึงขาดแคลน กองทัพไทยจึงได้นำปืนมาตฐานของกองทัพสัมพันธมิตร อย่าง ปสบ.87 และ ปลยบ.88 เข้าประจำการแทนและที่สำคัญ นี่ถือเป็นครั้งแรกๆ ที่กองทัพไทยได้ทำความรู้จักกับปืนพกออโต้แบบ M1911A1 อย่างเป็นทางการ โดยทางกองทัพสหรัฐฯ ได้ส่งมอบปืนพกรุ่นนี้เป็นจำนวนมากให้กับกองทัพไทย และได้ชื่อรหัสในกองทัพไทยว่า ปพ.86

 

                                                      

                           ปืนพก นัมบุ ( Numbu ) ของญี่ปุ่น

       

                                                        ปืนแบบ ป.99 หรือ Arisaka Rifle Type 99 ของญี่ปุ่น

                      

                                              จากภาพ ปืน ปสบ.87 หรือปืน M1 Carbine ของอเมริกา

                                       

                                               จากภาพ ปืน ปลยบ.88 หรือปืน M1Garand ของอเมริกา

ปี 2498 เกิดการขาดแคลนอาวุธปืนแจกจ่ายนายร้อย จึงได้มีการนำปืน ปพ.80 ที่เหลืออยู่มาดัดแปลงใหม่โดย คว้านรังเพลิง 9X23 ให้สามารถใส่กระสุนขนาด .45 ACP1 แบบปพ.86 ได้ โดยใช้ชื่อรหัสว่ารุ่นนี้ว่า ปพ.95 ซึ่งบันทึกไว้เพียงว่า จำนวนของ ปพ.95 Gen. แรกนี้ มีเพียง 300 กระบอกเท่านั้น และแจกจ่ายให้กับนักเรียนนายร้อยที่จบในรุ่นปี 2499 เท่านั้น ก่อนที่จะกระจัดกระจายไปตามส่วนต่างๆ ของประเทศไทย

จนกระทั้งในปี 2503 ปพ.95 ทางกรมสรรพาวุธก็นำปืน 95 มาปัดผุ่น เปลี่ยนเข็มแทงชนวนพร้อมทั้งปรับแต่งให้เป็นแบบ Colt ซึ่งแข็งแรงกว่า และถอดประกอบง่ายกว่า เพราะการถอดแบบ ปพ.80 ซึ่งยึดต้นแบบ ดัดแปลงมาจากปืนพก Star นั้น ต้องตอกศูนย์หลังออกก่อน จึงจะเอาเข็มแทงชนวนออกมาได้ในขณะที่ Colt ไม่ต้องทำเช่นนั้น แล้วจึงตึ้งชื่อรหัสปรับปรุงใหม่ว่า ปพ.95/03 ( 2549/2503 ) และมีการทยอยผลิตเฉลี่ยปีละ 122-200 กระบอก เบ็ดเสร็จจำนวนที่บันทึกและอ้างอิงแล้ว มีอยู่ราวๆ จำนวน 1500 กระบอกและกลายมาเป็นของหาดูได้ยากในปัจจุบันและส่วนใหญ่จะตกอยู่ในมือของทหารชั้นผู้ใหญ่ และนักสะสมทั้งในไทยและในต่างประเทศ

                                          

                                           จากรูป ปพ.95/03 ไทยทำทั้งกระบอก 

                                           

                                           ดูกันให้ชัดๆ ด้านซ้ายของ สไลด์ ลงลายเป็นภาษาไทยไว้ว่า ปืนพกขนาด ๑๑ มม. แบบ๙๕/o๓

                                          

                                                           ดูกันให้ชัดๆอีกสักรูป กับ ปพ.95/03 

ขั้นตอนการผลิตของ ปพ.ซี่รีย์ต่างๆมีดังนี้

1. ทีมสร้างชี้นส่วน 
       เป็นการทำชิ้นส่วนอย่างหยาบๆขึ้นมาก่อน และมีการวัดขนาดให้ถูกต้องด้วยแบบวัดผลิตชุดแรก ซึ่งใช้วัดให้
       แน่ใจว่าผลิตมาดีแล้ว สมัยนู้นเขาเรียกชิ้นส่วนนี้ว่า โกรน หรือ ของโกรน 
     - โครงปืน เป็นชิ้นแรกสุดและทำยากที่สุด ช่างแสงจะเอาเหล็กท่อนสี่เหลี่ยมหนาเหมือนแผ่นกระดานมาตัดเป็นท่อนๆ
ให้ยาวเท่าโครงปืน แผ่นหนึ่งกว้างพอที่ช่างจะวาดโครงสำหรับปืน 2 กระบอก โดยวาดให้สลับหัวสลับหาง จากนั้นก็บรรจง
เลื่อยท่อนเหล็กตามรูปที่วาดออกมา จากนี้เอาแบบจับยึด (Jig and Fixtures) ซึ่งก็คือแผ่นเหล็กแม่แบบมีแกน 2 แกน
บอกตำแหน่งของโครงปืนมาวาง เพื่อแสดงตำแหน่งว่าจะต้องเจาะโครงปืนที่ตัดไว้ให้ทะลุและเสียบลงในรูเหล่านี้เท่านั้น 
 รูมาตราฐาน นี้รูแรกคือรูใส่สลักยึดลำกล้องเหนือโกร่งไก อีกรูอยู่ที่ท้ายด้าม จากนี้ไปช่างจะไส...     เจาะ...กัด...เซาะ 
เหล็ก จนเหลือเป็นโพรง  ในแต่ละส่วนเขาจะมีแบบวัดโกรนหรือแบบวัดผลิต นี้มีสารพัดขนาด (รูปร่างเหมือนปากกาปาก
ตาย) ตามสเป็ก ปืนชนิดเดียวช่างจะมีแบบวัดหนึ่งลังใหญ่ๆ  
   - สไลด์ นั้นใช้เหล็กแท่งมาสกัด เจาะช่องสอดลำกล้องแล้วกลึงผิวด้านบนจนโค้ง 
   - ลำกล้อง เขาใช้เหล็กแท่งสี่เหลี่ยมชนิดเหนียวพิเศษมาเจาะรูลำกล้อง แล้วกลึงขึ้นรูป จากนั้นเข้าเครื่องกัดส่วน
ท้ายที่เป็นแท่นและห่วงข้อต่อต่างๆ จึงจะเอามาคว้านรังเพลิงครั้งที่ 1 โดยเราจะยังไม่ได้ตามขนาดกระสุนเป๊ะ ขั้นต่อ
ไปก็ค่อยไสร่องเกลียวทีละร่องด้วยใบมีดหล่อด้วยน้ำผสมน้ำยาหล่อเย็น (Coolant) ขั้นสุดท้ายจึงนำดอกคว้านตัวจบ 
(Final Reamer)มาปรับรังเพลิงให้ได้ขนาดมาตราฐาน
     - แม็กกาซีน ช่างอีกกลุ่มเขาจะสาละวนนำเหล็กแผ่นมาพับเชื่อมเข้ารูปกับแบบทำแม็กกาซีน ซึ่งเป็นเหล็กแท่ง 
กองเตรียมเอาไว้แม็กฯพวกนี้รอถูกปรับแต่งเข้ากับปืนที่เสร็จสมบูรณ์แต่ละตัวในภายหลัง ทำให้ ใช้สลับกับปืนกระบอก
อื่นไม่ได้ ปพ. 95 ตัวหนึ่งหลวงจะแจกแม็ก 3 อัน เป็นสำรอง
   - ชิ้นส่วนเล็กๆอื่นๆ ของปืน คนที่ทำต้องเป็นคนวัดเข้าแบบวัดเองห้ามช่วยกันมิฉะนั้นจะสับสน เจ้าชิ้นเล็กอย่าง
ไกปืนอย่าคิดว่าง่ายเพราะมีแบบวัดโกรนถึง 20 อันไว้กำกับ พอเสร็จก็แยกประเภทใส่ลังไว้ก่อน

2. ทีมชุดปรับและประกอบ มีประมาณ 20 คนแบ่งเป็นสองหมู่ๆละ 10 คนโดยแจกให้ทำคนละไม่เกิน 1 กระบอก
ต่องาน 1 ชุด และมีโครงปืนโกรนวางเรียงไว้พร้อมเบอร์กำกับบนโต๊ะ 
   - การปรับแต่งขั้นต้นหรือปรับปืนขาว ชิ้นส่วนโกรนอื่นๆในกะบะจะนำมาปรับแต่งด้วยเครื่องขัดและมี แบบ
วัดแต่ง เป็นชุดที่ 2 ไว้เทียบกันอีกกระบุงใหญ่ เช่น ศูนย์หลังใช้แบบวัดแต่ง 5 อัน จากนั้นก็จะตีเบอร์กำกับเช่น สไลด์
 มีเบอร์เป็นทางการว่า พ.95/4 น่าสังเกตว่าเขาจะไม่ตีตราผู้ตรวจอย่างเมืองนอกลงบนปืนทุกชิ้นเหมือนช่างเยอรมัน
ประกอบปืนพาราเบลลั่ม แปลว่าผู้ทำเป็นคนให้ผ่านคิวซีเองก่อนไปชุบแข็งชิ้นส่วนต่างๆถูกปรับแต่งเเล้วยังเป็นเหล็ก
สีขาวหรือที่ช่างแสงรู้จักกันว่า ปืนขาว- การชุบเหล็ก ชุบด้วยความร้อนและให้เย็นอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ชิ้นส่วนบางชิ้น
มีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษกันมิให้บิ่นหรือหักง่าย ได้แก่ ขอรั้งปลอก แกนปุ่มปลดแม็กฯ เข็มแทงชะนวน เป็นต้น มี
พิเศษที่ปากแม็กฯหรือปากซองปืนชุบแข็งไว้ด้วยเพื่อรับแรงถอยหลังของสไลด์ดังนั้นพึงระวังไม่ควรทำแม็กฯหล่น
กระทบพื้น ลำกล้องนั้นชุบไม่ได้เดี๋ยวยิงแล้วระเบิด 
   - การเขียนอักษร ส่งให้ช่างเขียนตราของกรมและชื่อแบบปืนลงบนข้างสไลด์ มิได้ทำการตอกลงไปกันชิ้นส่วน
ยุบตัวทั้งนี้ยังไม่ระบุเลขประจำปืน(Serial Number) ลงไปขอรอให้เสร็จจริงก่อน
     - ประกอบครั้งที่ 1 เทียบศูนย์ ตั้งไก คราวนี้ทีมช่างก็เริ่มประกอบปืนเสียที ตะไบคืออุปกรณ์สำคัญเพื่อปรับ
แต่งจนขึ้นลำและลั่นไกได้ครบ แล้วช่างจะเอาไปเทียบศูนย์ระยะ 25 หลา ด้วยกล้องที่มีแกนเสียบเข้ากับรูลำกล้อง
เล็งกับเป้าเทียมปรับแบบนั่งแท่น แล้วนำไปปรับไกปืนตั้งไว้ที่ 2.5-2.8 กก.พอลองยิงได้ 1 นัด จากนั้นก็ส่งไปเขียน 
เลขประจำปืน(Serial Number) 
   - ส่งรมดำ 
     - ประกอบปืนดำ ช่างคนเดิมจะประกอบเข้าด้วยกันเป็นครั้งสุดท้ายเรียกว่า ปืนดำ แล้วยิ้มร่าหิ้ว ปพ.95 และ
กระเป๋าอุปกรณ์ไปยื่นส่งฝ่ายตรวจสอบคุณภาพยิงทดสอบให้ดูที่อุโมงค์ยิงรวม 2 ชุด 

 

                                 

 

การผลิตปืนของไทยยังคงมีต่อเนื่องมาจนกระทั้งปี 2530 เืมื่อพรบ. ห้ามผลิตอาวุธในประเทศออกมา จึงทำให้การผลิตอาวุธภายในประเทศยุติลงโดยสิ้นเชิง เหลือแต่เพียงอะไหล่ออกมาอย่างต่อเนื่องเท่านั้น แต่ก็มีเพียง ปพ.86-95/03 เท่านั้นครับที่หายสาบสูญไปจากหน้าประวัติศาสตร์ไปเลย คุณค่าของปืนกระบอกนี้ น่าจะอยู่ตรงที่ตัวปืนนั้น ไม่ได้เป็น M1911 อย่างที่หลายคนคุ้นเคยกันตรงที่มีเซฟตี้หลังอ่อน จนถึงรุ่นสุดท้าย 95/03 ก็ไม่มีเซฟตี้หลังอ่อน( แต่บางกระบอกมีแต่ก็หาดูได้ยากมาก) ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ปพ. ทุกกระบอกหลังยุค ปพ.80 เป็นต้นมาเป็นปืนไทยทำเองทั้งกระบอก โดยฝีมือช่างพระกาฬของช่างสรรพวุธไทยเมื่อสมัย 50 ปีที่แล้ว ถือว่าเป็นปืนที่มีคุณค่าระดับยอดเยี่ยมยิ่งกว่าปืนใหม่ที่ผลิตด้วยเครื่องจักรในทุกมิติ เสียดายที่ปัจจุบันหาไม่ได้อีกแล้ว อีกทั้งยังมีมารค์กิ้งอันเป็นเอกลักษณ์ บนตัวปืนเป็นภาษาไทย ว่า

ปืนพกแบบ ๙๕/o๓ ขนาด ๑๑ มม. กำกับอยู่ ยิ่งทำให้รู้สึกภาคภูมิใจ ในการได้ครอบครองปืนสัญชาติไทยแท้ กระบอกนี้อย่างบอกไม่ถูกใครที่มีไว้ในครอบครอง ก็อย่าได้คิดขายเชียวนะครับ เพราะว่าท่านอาจจะไม่มีวันได้เห็นมันอีกแล้วตลอดชีวิตของท่าน (แต่ถ้าใครมีและสนใจขาย ติดต่อมาได้ที่ จขกท. นะครับ ) 

 

 

* สูตรสำเร็จ ของการโพสท์กระทู้ Postjung  รูปเยอะๆ เืนื้อหาน้อยๆ ดียิ่งนักแล *

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Saw-Gunner's profile


โพสท์โดย: Saw-Gunner
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
29 VOTES (4.1/5 จาก 7 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
😆 ชวนเข้ามาดูภาพถ่ายอันน่าทึ่ง พิสูจน์ว่าไม่มีใครสามารถรู้ทุกอย่าง เกี่ยวกับโลกได้ 😉"ปิงปอง" ทำถึงมาก! คัฟเวอร์เป็น "ลาบูบู้"..แบบนี้ลิมิเตดแน่นอน!!แมคโดนัลด์เป็นอะไร..ทำไมถึงมีโลโก้กลับหัวนี่คือวงเวียนในเขมร ที่ใช้งบประมาณไปกว่า 70 ล้านบาทในการก่อสร้าง!เท้าอยู่ไม่สุข เลยเจอ " ห้ามแข่งตลอดชีวิต "นักมวย MMA อิหร่านเตะก้นสาวริงเกิร์ลบนเวที..โดยอ้างว่าเธอแต่งตัวไม่สุภาพผู้สูงอายุ ที่แท้จริง อายุเริ่มต้นที่เท่าไหร่?ข้าวเหนียวมะม่วงของไทย คว้าอันดับ 2 ขนมหวานประเภทมีข้าวเป็นส่วนประกอบที่ดีที่สุดของโลกไบร์ท วชิรวิชญ์ เผยว่า ขอเนเน่เป็นแฟนแล้ว
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
หนุ่มรีวิวกินไข่ต้ม 3-4 ฟอง 7 วัน น้ำหนักลด 15 กิโลกรัม!!! พุงยุบอย่างเห็นได้ชัดชาวเน็ตแห่แซว! เสื้อวินมอไซค์รับจ้างของเขมรยังเหมือนกับเสื้อวินของไทย?หญิงชาวจีนกลับมาขอบคุณ เจ้าหน้าที่อุทยานผาแต้มภาพชุดความเป็นจริง ของพื้นที่ในสีหนุ วิลล์ของกัมพูชา ที่พอมีการนำเสนอภาพความจริง คนเขมรถึงกับรับไม่ได้กันเลยทีเดียวม.ดังปฏิเสธหนุ่มหัวกระทิเข้าเรียน หลังเคยทๅรุณกรรมแมวมาก่อน
ตั้งกระทู้ใหม่