ข้อคิดคู่แท้&รักคนมีเจ้าของ
รักคนมีเจ้าของอย่ามองหน้า อยากหายบ้าให้จ้องเท้า
ถ้าตัวเลือกของคุณมากนัก การเจอคนมีเจ้าของแล้วนับว่าดีเหมือนกัน คือสบายใจได้เลยว่าไม่มีสิทธิ์แน่ คัดออกไปไม่ต้องเอามาเป็นหนึ่งในตัวเลือกได้เลยแน่ๆ!
อย่าตั้งความหวังรอ อย่าให้ความหวังเขา และอย่าทำตัวเป็นตัวแปร คุณกำลังหาคนที่ใช่ ฉะนั้นอย่าหลงหวังรอแบบผิดๆ ตอกย้ำทำความเข้าใจกับตนเองว่า คนที่ใช่จะมาเจอกันในเวลาที่คุณไม่มีสิทธิ์ได้อย่างไร?
คบไปรังแต่จะมุ่งหน้าสู่ดงงิ้วกันเปล่าๆ!
จริงอยู่ครับ มีอยู่จริงๆ ที่เป็นคู่บุญติดตามกันมาหลายภพหลายชาติ แต่ดันไปเป็นของคนอื่นเสียก่อน แล้วก็ต้องเกิดความทรมานใจกัน แต่ ขอให้จำไว้เถิด ต่อให้ครองคู่กันมาเป็นล้านชาติ ก็หาได้ทำให้ชาตินี้ ‘ใช่’ เหมือนชาติอื่นๆไม่ ในเมื่อพลัดไปมีเจ้าของเสียก่อนแล้ว
ให้เร่งรู้ตัวไว้เสียว่าบาปบางอย่างที่ทำไว้ร่วมกัน สกัดกั้นไว้ไม่ให้ร่วมเรียงเคียงกันอีกในชาตินี้ เพื่อ ล่อลวงให้พวกคุณประพฤติผิดประเวณีกัน หรืออ้อนวอนให้อีกฝ่ายทรยศคู่ครอง ซึ่งเท่ากับเป็นการเพิ่มน้ำหนักบาปให้ความสัมพันธ์ข้ามภพข้ามชาติเข้าไปใหญ่
คนเราเข้าคู่กันก็ด้วยกำลังบุญ แล้วก็แยกคู่กันด้วยกำลังบาป คุณจะครองคู่กันเป็นสุขด้วยหนทางแห่งบาปเวรได้อย่างไร
เว้นแต่พวกเขาจะเลิกกันเอง โดยคุณไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆแม้ส่งสัญญาณยักคิ้วหลิ่วตาใดๆ อันนั้นค่อยเป็นอีกเรื่อง นอกเหนือจากนั้นแล้วนะครับ ใส่เกียร์ถอยลูกเดียว ห้ามล่วงล้ำไปข้างหน้าอีกแม้แต่หนึ่งคืบ!
หากปวดแสบปวดร้อน ทรมานใจเพราะต้องเจอหน้ากัน ก็ให้พิจารณาว่าใบหน้าคนเราเป็นศูนย์กลางความดึงดูด จ้องมองใกล้ๆหรือแอบมองห่างๆรังแต่จะทรมานเปล่า ให้เปลี่ยนเป็นจดจ้องเท้าเขาหรือเธอให้มากๆ ภาพที่กระทบตาจะได้กระแทกใจบ่อยๆว่าคุณกำลังใฝ่ต่ำ หาเรื่องใส่ตัว และอาจโดนอวัยวะเบื้องล่างของใครกระทืบเอา
นานไปพอไม่เห็นหน้า เห็นแต่เท้าอยู่เรื่อย ใจคุณก็เลิกยึดมั่นถือมั่น คลายมนต์สะกดแห่งบาปเวรที่ผูกมัด กลายเป็นอิสระโล่งอกไปได้เองครับ
สรุปคือคนมีเจ้าของไม่ใช่คนที่ใช่แน่ๆ ถ้าคุณฝืนจะยื้อมา ก็เท่ากับเอาคนที่ไม่ใช่มาบดบังคนที่ใช่ ซึ่งอาจกำลังเดินตามหลังมาแค่ไม่กี่ก้าวก็ได้
คู่เทียมเจอเมื่อไหร่ก็ได้ แต่คู่แท้ต้องเจอในจังหวะที่พร้อมจะรักกันจริงเท่านั้น
ถ้าคุณเคยอ่านหนังสือเล่มเดียวสองรอบแล้วรู้สึกต่างกัน ราวกับอ่านหนังสือคนละเล่ม รอบแรกรู้สึกว่าไม่เห็นจะเอาไหน แปลกใจทำไมใครต่อใครถึงชอบกัน แต่รอบที่สองกลับรู้สึกมีอารมณ์ร่วม ยิ่งอ่านยิ่งตาสว่าง ประสบการณ์ทำนองนี้แหละที่เป็นตัวอย่างบอกคุณได้ว่า คนเราไม่พร้อมจะรับสิ่งมีค่าเสมอไป
ถ้าเห็นค่าของคนที่มีค่าไม่ได้ คุณก็จะไม่มีวันเจอคนที่ใช่เลย ต่อให้เขาหรือเธอนั่งอยู่ตรงหน้าก็ตาม และนั่นก็ทำให้คนจำนวนมากต้องมานั่งเสียดายอดีต เฝ้าย้ำคิดอยู่เสมอว่าขอเพียงเจอคนบางคนอีกครั้ง จะเทคแคร์เขาหรือเธอสุดชีวิต จะไม่ปล่อยให้หลุดมือไปซ้ำสองอีกอย่างเด็ดขาด
แต่นั่นแหละ เวลาเป็นสิ่งย้อนทวนไม่ได้ เมื่อครั้งนั้นไม่พยายามรักษาเขาหรือเธอไว้ ปล่อยให้หลุดมือไปแล้ว ก็สายไปแล้ว นี่คือข้อคิดควรจำที่จะทำให้คุณปลงตกนะครับ ถึงคนใช่ แต่เวลาไม่ใช่ ก็แปลว่าไม่ใช่!
เวลาที่ใช่ของแต่ละคนต่างกัน หากคุณเป็นเด็กหนุ่มที่หาเงินใช้เองได้ตั้งแต่อายุ ๑๗ ก็แปลว่าคุณพร้อมจะรับผิดชอบครอบครัวตั้งแต่ยังวัยรุ่น แต่หากคุณเป็นชายวัย ๔๐ แล้วยังต้องแบมือขอตังค์พ่อแม่ ไม่มีหลักแหล่งพักพิงอาศัยของตนเอง ต้องอาศัยบ้านญาติอยู่ แถมยังขี้เกียจตัวเป็นขน อย่างนี้แปลว่านานแค่ไหนคุณก็ไม่พร้อมจะพบรักแท้เอาเลย เพราะแม้มีเมีย เมียก็จะอยู่กับคุณแบบหมดอาลัยตายอยากไปวันๆ ไม่อาจอยู่ร่วมกันด้วยความรู้จักรักเป็นแน่
หรือถ้าคุณเป็นผู้หญิงที่กำลังอยู่ในช่วงกร้านโลก คบทั่วมั่วแหลก ไม่มีแก่ใจมองโลกในแง่ดี อารมณ์ปรวนแปรผันผวน เอาแต่ใจตัวสุดๆ เห็นบรรดาชายหน้าโง่เป็นตู้เอทีเอ็มอย่างเดียว แบบนี้อยู่กับใครเขาก็อยากทิ้งภายในสามวันเจ็ดวันครับ ต่อให้แรงดึงดูดทางเพศสูงขนาดไหนก็เถอะ
ผู้หญิงดีๆส่วนใหญ่ฝันอยากมีรักเดียว เป็นของผู้ชายคนเดียวไปตลอดชีวิต ไม่อยากเป็นของเล่นที่ถูกเปลี่ยนมือไปเรื่อย แต่ในโลกความเป็นจริง ความขาดประสบการณ์ในเรื่องรักๆใคร่ๆจะทำให้ทั้งชายทั้งหญิงไม่รู้ประสีประสา คือยังดิบๆอยู่ นึกว่ามีอีกฝ่ายไว้เอาใจตัวเอง ผ่อนปรนประนีประนอมไม่เป็น เห็นอะไรขัดหูขัดตาจะดูคอขาดบาดตายไปหมด
ฉะนั้น ควรทำใจยอมรับความจริงกัน น้อยเท่าน้อยครับในโลกนี้ ที่เจอแล้วปิ๊งกันตั้งแต่เด็ก อยู่คู่ไม่แยกจากกันเลยจนตาย คือมีนะครับ ไม่ใช่ไม่มี แต่อย่าหวังว่าจะแจ็คพอตเป็นคุณกับคนรัก ทำนองเดียวกับที่ไม่ควรหวังให้มากนักว่าจะถูกล็อตเตอรี่นั่นแหละ
ประสบการณ์ทางความรักในอดีต จะเป็นทั้งบทเรียน เป็นทั้งแบบฝึกหัด หรือเป็นทั้งการสอบไล่เพื่อผ่านมาถึงตัวจริง กล่าวคือพอถึงเวลาเจอตัวจริง คุณจะเป็นผู้ใหญ่พอ หรืออย่างน้อยต้องมีความคิดอ่านมากพอจะรู้ว่าคนที่มีค่าสำหรับคุณ คือคนที่เหมาะสมกับคุณ และจะทำให้คุณเป็นสุขในระยะยาว ไม่ใช่เอาแต่ฝันแบบเด็กวัยรุ่นว่าคู่ของฉันจะต้องจ๊าบสุด เดินควงแล้วเพื่อนๆอิจฉาตาร้อนกันใหญ่อะไรทำนองนั้น
สรุปนะครับ ถ้าคุณกำลังเป็นลูกแหง่ กำลังเป็นเด็กขี้แย กำลังช่างฝันจะเอาแต่อะไรดีๆ กำลังใจแกว่งง่ายเห็นใครดีกว่าก็ชอบกว่า กำลังเที่ยวแบมือขอตังค์ใครต่อใคร หรือหนักกว่านั้นคือกำลังเป็นบ้า กำลังขี้เมา กำลังอยู่ในบ่อนพนันไม่เห็นตะวันและดาวเดือน อย่างนี้ไม่ใช่จังหวะเหมาะจะเจอคนที่ใช่หรอกครับ คนที่ใช่อาจเป็นแรงบันดาลใจให้คุณเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ แต่เขาจะไม่มาในเวลาที่คุณยังอยากย่ำอยู่กับที่เป็นอันขาด
ถึงตรงนี้ คุณคงพอเห็นเป็นแนว ว่าเขาหรือเธอที่คุณรักอาจไม่ตรงกับเจ้าชายเจ้าหญิงในความฝันของคุณเลยแม้ แต่นิดเดียว เพราะฉะนั้นอย่าเริ่มกวาดตาหาคนที่เหมือนฝัน แต่ให้มองดูคนที่มาในเวลาเหมาะด้วยความใจเย็น
แล้วที่สำคัญนะครับ อย่าให้เสียงนกเสียงการอบข้างมีอิทธิพลกับการตัดสินใจของคุณ แต่ ขณะเดียวกันก็อย่าละเลยเสียงทักของเพื่อนแท้ ให้รับฟังและเก็บไว้เป็นข้อมูลภายนอก แล้วนำมาเปรียบเทียบกับข้อมูลอันได้จากประสบการณ์ตรง จึงค่อยชั่งใจ กับทั้งตัดสินใจด้วยตนเองว่าคุณจะเอาแน่ไหม
เพราะที่เหลือต่อจากนั้น คุณเองนั่นแหละที่จะต้องรับผิดชอบทั้งหมด!
ที่กำลังจะกล่าวต่อไป น่าจะช่วยให้คุณชั่งใจได้อย่างมีหลักเกณฑ์มากขึ้นครับ