หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เจาะลึก ไททานิค แจ็คกับโรส และคนอื่นๆมีตัวตนจริงหรือไม่? ตอนที่ 2

โพสท์โดย KengInMaKa

แนะนำให้เปิดเพลง ขณะอ่านเนื้อหา^^

 

 

ตอนที่ 2 ตอนนี้จะขอเป็นการอธิบายข้อมูลตัวละครที่มีอยู่จริงต่างๆในภาพยนต์นะครับ

 

มาดูตัวละครบ้าง

เนื้อหาของหนังนั้น ต้นเรื่องมาจนกลางเรื่องก่อนที่เรือไททานิคจะจมจะเป็นบทประพันธ์ที่แต่งเติมขึ้นมาเสียเป็นส่วนใหญ่ ทั้ง หนุ่มแจ๊ค สาวโรส เซลดอน นาธาน ฮ็อกลี่ย์ หรือแคลคู่หมั้นของโรส แม่ของโรส ตัวประกอบอื่นๆ รวมถึงเพชรที่ชื่อหัวใจมหาสมุทรล้วนเป็นเรื่องแต่งขึ้นทั้งสิ้น มีตัวละครที่มีตัวตนอยู่จริงปรากฎตัวประกอบเรื่องบ้าง เช่น กัปตันสมิท, วิศวกรแอนดรูว์, มอลลี่ บราวน์ ซึ่งขออธิบายถึงตัวจริงของคนเหล่านี้หน่อยนะครับ

ตัวละครที่ไม่มีตัวตนจริง


Leonardo DiCaprio รับบท แจ๊ค ดอว์สัน (Jack Dawson)


Kate Winslet รับบท โรส เดวิท บูเคเตอร์ (Rose DeWitt Bukater)

จากซ้ายไปขวา Leonardo DiCaprio รับบท Jack, Kate Winslet รับบท Rose วัยสาว

และ Gloria Stuart เป็น Rose วัยชรา (ไม่มีตัวตนจริงๆเป็นตัวละครที่สร้างขึ้นมา)

Billy Zane รับบท Caledon Nathan Hockley คู่หมั้นโรส

Frances Fisher รับบท Ruth DeWitt Bukater แม่ของโรส

David Warner รับบท Spicer Lovejoy คนใช้ผู้ซื่อสัตย์ ของฮ็อกลี่ย์

เพชรที่ชื่อ หัวใจมหาสมุทร ล้วนเป็นเรื่องแต่งขึ้นทั้งสิ้น

ภาพวาด Rose DeWitt Bukater ล้วนเป็นเรื่องแต่งขึ้นทั้งสิ้น


ตัวละครที่มีอยู่จริงในเรื่อง


มากาเร็ต โทบิน บราวน์ (Magaret Tobin Brown) หรือฉายามอลลี่ผู้ไม่มีวันจม จัดเป็นพวกเศรษฐีใหม่ในยุคนั้นได้ร่วมเดินทางไปกับเรือไททานิคครั้งนั้นด้วย (ในภาพยนตร์ เธอมีบทบาทในการช่วยหาชุดแต่งกายแบบชนชั้นสูงให้กับแจ็ค)

Dosiero:Edward J. Smith.jpg

กัปตัน เอ็ดเวิร์ด เจ. สมิท (Edward J. Smith) กัปตันที่ถือว่าเก่งกาจ และมีค่าตัวแพงที่สุดในยุคนั้นเขาได้ มาเป็นกัปตัน เรือไททานิค เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย เขาได้ทำการเร่งเครื่องยนต์เรือไททานิกด้วยความเร็ว 21น้อต คือ ครึ่งๆ ของความเร็วเต็มที่ของไททานิค และพอตกเย็น เขาได้รับคำเตือนภูเขาน้ำแข็ง ขณะนั้น คุณบรูซ (เจ้าของเรือไททานิค) ได้สั่งให้เขา เร่งเครื่องยนต์ไททานิคให้เต็มที่ คือ 54 น้อต ตอนแรก กัปตันก็ไม่สนใจ เพราะไม่อยากจะ ฝืนกำลังเครื่องยนต์ แต่ ปีนี้เป็นปีสุดท้ายที่กัปตันจะเกษียณแล้ว เลยทำให้เขาชะล่าใจและตกลงเร่งเครื่องให้เต็มพิกัด

เจ. บรูซ อิสเมย์ (J. Bruce Ismay) หุ้นส่วนผู้หนึ่งของไวต์สตาร์ไลน์ สายการเดินเรือแห่งนี้จึงเริ่มสร้างเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่แบบ 3 ใบเถาขึ้น โดยสร้างขึ้นก่อน 2 ลำในปี ค.ศ. 1908 (พ.ศ.2451) นั่นคือเรือเดินสมุทรโอลิมปิก (Olimpic) และไททานิก (Titanic) และหลังจากนั้นจึงจะสร้างลำที่ 3 ซึ่งตั้งชื่อไว้แล้วว่าไจแกนติก (Gigantic) แต่ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นบริแทนนิก (Britannic)

โทมัส แอนดรูวส์ (Thomas Andrews) วิศวกรอาวุโสของอู่ต่อเรือฮาร์แลนด์และ "วูลฟฟ์" (Wolff) ผู้ออกแบบ และควบคุมการต่อเรือไททานิค แอนดรูวส์ชื่นชมเรือไททานิคว่าเป็นเรือที่สมบรูณแบบที่สุดเท่าที่สติปัญญาของมนุษย์จะทำได้

พอถึงตอนที่เรือปะทะภูเขาน้ำแข็งและเริ่มจม เนื้อหาของหนังจึงเริ่มเข้าสู่เหตุการณ์ประวัติศาสตร์จริงๆ แต่ยังคงความโดดเด่นในบทบาทของ แจ็ค โรส และตัวละครอื่นๆ ไว้อย่างแนบเนียน โดยขออธิบายเหตุการณ์ในหนังเทียบกับเหตุการณ์ที่แท้จริง ดังต่อไปนี้ครับ

การกักกันผู้โดยสารชั้นสามไว้ที่ใต้ท้องเรือ ไม่มีข้อยืนยันว่าได้มีการกักกันผู้โดยสารชั้นสามไว้ที่ใต้ท้องเรือ แต่มีการจัดระเบียบการอพยพผู้โดยสาร ซึ่งหมายถึงผู้โดยสารชั้นหนึ่งที่เป็นเด็กและผู้หญิงจะได้สิทธิลงเรือชูชีพไปก่อน ส่วนผู้โดยสารชั้นสามต้องรอทีหลัง แต่ในที่สุด ทุกอย่างก็เป็นไปตามระบบเอาตัวรอดกันแบบตัวใครตัวมัน


เนื้อหาของหนังนั้น ต้นเรื่องมาจนกลางเรื่องก่อนที่เรือไททานิคจะจมจะเป็นบทประพันธ์ที่แต่งเติมขึ้นมาเสียเป็นส่วนใหญ่ ทั้ง หนุ่มแจ๊ค สาวโรส เซลดอน นาธาน ฮ็อกลี่ย์ หรือแคลคู่หมั้นของโรส แม่ของโรส ตัวประกอบอื่นๆ รวมถึงเพชรที่ชื่อหัวใจมหาสมุทรล้วนเป็นเรื่องแต่งขึ้นทั้งสิ้น มีตัวละครที่มีตัวตนอยู่จริงปลากฎตัวประกอบเรื่องบ้าง เช่น กัปตันสมิท, วิศวกรแอนดรูว์, มอลลี่ บราวน์

 

ว่ากันว่า...เรืออัปปางเพราะมัมมี่ต้องคำสาป!

 


นอกจากนี้ยังมีตำนานอีกเรื่องเกี่ยวข้องกับการอัปปางของเรือไททานิคในครั้งนั้น เป็นตำนานที่ไม่ทราบที่มา แต่ก็ได้มีการเล่าขานกันมาถึงเรื่องเจ้าหญิงอาเมนรา มัมมี่ที่ได้ถูกขนส่งไปพร้อมกับเรือสุดหรูลำนี้


หนังสือพิมพ์บางฉบับกล่าวถึงเรื่องการอัปปางของไททานิคว่าเกิดจากคำสาปมัมมี่ที่อยู่ในเรือแห่งนี้ พ่อค้าที่ขาดจิตสำนึก ได้ลอบนำมัมมี่เข้าสู่อเมริกา เพื่อต้องการขายมัมมี่แก่พิพิธภัณฑ์ในนิวยอร์ก ตามที่ได้ตกลงราคาเป็นมูลค่าที่สูงถึง 500000 ดอลลาร์ เขายังได้ตกลงแบ่งเงินจำนวนนั้นให้แก่หัวขโมยที่ลักลอบโจรกรรมสุสานแห่งนี้ โดยที่การลักลอบโจรกรรมครั้งนี้เทพอนูบิสทรงพิโรธเป็นอย่างยิ่งจากการที่มเหสีของฟาโรห์ถูกลักลอบขโมยไปและขายให้พิพิธภัณฑ์ในนิวยอร์กสเหมือนเป็นการหมิ่น พระเกียรติฟาโรห์อย่างมหันต์

ดังนั้นเพื่อจัดการทำลายล้างพวกที่ไม่เคารพ เทพอนูบิสจึงจมเรือไททานิคเพื่อให้มัมมี่จมลงสู่ทะเลพร้อมกับเรือแระผู้โดยสารโชคร้ายทุกคน นั่นคืออำนาจคำสาปแห่งเทพเจ้า ยังมีตำนานที่เล่าขานกันเพิ่มเติมว่า มัมมี่ได้ถูกนำขึ้นไปไว้อย่างปลอดภัยบทเรือชูชีพที่ช่วยชีวิตผู้โดยสาร ในขณะที่เรือไททานิคกำลังจมสู่ท้องทะเล

 

 

จากนั้นได้มีการขนส่งต่อไปยังนิวยอร์ก แต่กลับเกิดเหตุประหลาดมากมาย จนทำให้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบตักสินใจส่งกลับคืนสู่อียิปต์ด้วยเรือ เอ็กซ์เปรส ออฟ ไอร์แลนด์(Express of Ireland)และสุดท้ายเรือลำนี้ก็ได้จมลงสู่มหาสมุทรพร้อมกับชีวิตของลูกเรือทุกคน การอัปปางครั้งนี้มัมมี่ไม่ได้จมอยู่กับเรือหากแต่สามารถกู้ขึนมาได้โดยเรือชูชีพหลังจากนั้นมีความพยายาม ที่จะส่วมัมมี่กลับสู่อียิปต์อีกครั้งด้วยเรือลูซิทาเนีย ซึ่งก็อัปปางลงอีกจากฝีมือตอร์ปิโดในสงครามโลก แต่ครั้งนี้ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะมัมมี่ที่ดำดิ่งสู่ก้นสมุทรไปพร้อมกับสัมภาระต่างๆของเรือลูซฺทาเนีย ด้วยเหตุนี้จึงมีการพิพากษ์กันว่า เคราะห์กรรมของไททานิคนั้นเนื่องมาจากคำสาปของมัมมี่จนเป็นตำนานที่เล่าขานที่โจษขานกันไม่รู้จบ


เจ้าหญิงอาเมน-รามีพระชนม์ชีพในช่วงประมาน 1500 ปีก่อน ค.ศ.เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์ พระศพได้รับการบรรจุลงในโกศหรือโลงพระศพไม้ ที่ประดับตกแต่งอย่างงดงามตระการตา จากนั้นมีการนำไปบรรจุในสุสานหลวงที่ลักซอร์ริมฝั่งแม่น้ำไนล์ จวบจนในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ1890กลุ่มหมาเศรษฐี 4 คน ได้มาเยี่ยมชมอุโมงค์บรรจุพระศพที่ลักซอร์ มีการยื่นเสนอข้อตกลงซื้อขายโลงบรรจพระศพมัมมี่ของเจ้าหญิงอาเมน-ราที่ประดับตกแต่ง อย่างอลังการนี้

เศรษฐีหนุ่มคนหนึ่งในกลุ่มผู้ร่ำรวยถูกรางวัลล็อตเตอรี่ได้จ่ายเงินซื้อโลง พระศพมัมมี่เนราคาหลายพันปอนด์และ ได้นำกลับมาเก็บไว้ที่โรงแรมที่เขาพักอยู่2ชั่วโมงต่อมาเขาได้เดินทางออกไปในทะเลทราย และไม่ได้หวนกลับมาอีกเลย ในวันรุ่งขึ้นหนึ่งในสามเศรษฐีที่เหลืออยู่ก็ถูกคนรับใช้ชาวอียิปต์ยิง โดยอ้างว่าเป็นอุบัติเหตุ บาดแผลที่ถูกยิงตรงแขนข้างหนึ่งของเขาเกิดเป็นแผลร้ายแรงจนต้องตัวแขนทิ้ง เศรษฐีหนุ่มคนที่สามถูกธนาคารยึดเงินฝากของเขาไว้ทั้งหมดเมื่อเดินทางกลับสู่บ้าน เศรษฐีคนสุดท้ายก็ต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคร้ายและหมดเนื้อหมดตัว จนต้องออกมาขายไม้ขีดไฟตามท้องถนน

อย่างไรก็ดี โลงพระศพได้ย้ายมาสู่ประเทศอังกฤษตามคำสั่งซื้อของนักธุรกิจแห่งกรุงลอนดอน โดยที่ระหว่างการขนส่งก็เกิดเหตุประหลาดที่เป็นอุปสรรคตลอดเส้นทางหลังจากที่มัมมี่อยู๋อยู่มาอยู่สมาชิกในบ้านของนักธุรกิจนี้ 3 คนประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนและบ้านก็ถูกไฟไหม้ นักธุรกิจผู้นั้นตัดสินใจบริจาคฌลงอาถรรพ์แก่พิพิธพันฑ์อังกฤษ แต่ขณะที่ย้ายลงจากรถบรรทุกในบริเวณสนามของพิพิธภัณฑ์รถก็พลิกคว่ำ แล้วพุ่งเข้าชนผู้คนบริเวณ ละแวกนั้น พอสิ้นความวุ่นวาย และเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์2คนกำลังกำลังขนบพระศพขึ้นบันไดนั้น คนหนึ่งเกิดพลาดตกลงมาขาหัก ส่วนอีกคนไม่เป็นอะไรแต่อีก2วันต่อมาเขากลับเสียชีวิตอย่างไม่ทราบสาเหตุ ครั้นเมื่อพระศพมัมมี่เจ้าหญิงประทับในห้องแสดงอารยธรรมอียิผต์ หายนภัยที่แท้จริงก็เริ่มต้นขึ้น


ยามรักษาความปลอดภัยพิพิธภัณฑ์ได้ยินเสียงกระทุ้งโลงอย่างรุนแรง และมีเสียงกุกกักปึงปังยามค่ำคืนโดยไร้สาเหตุ ยามคนหนึ่งได้ตายระหว่างรักษาการณ์ เป็นเหตุให้ยามคนอื่นๆอยากลาออก แม้กระทั่งพนักงานทำความสะอาดพลอยไม่อยากเข้าใกล้โลงพระศพ

ผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์มือบอนคนหนึ่งนำผ้าขี้ริ้ววางปิดภาพใบหน้าที่วาดบนโลงอย่างลบหลู่ หลังจากนั้นลูกของผู้เข้าชมอุตริผู้นั้นตายด้วยโรคหัด ท้ายที่สุดเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ได้เคลื่อนย้ายพระศพมัมมี่ไปเก็บไว้ที่ห้องใต้ดิน ด้วยความคิดที่ไม่ต้องการให้ทำร้ายใครได้อีกต่อไปแต่ในอาทิตย์เดียวกันนั้น เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่มีส่วนช่วยเคลื่อนย้ายโลงพระศพก็ล้มป่วยลงด้วยอาการขั้นตรีทูต รวมทั้งผู้ดูแลการเคลื่อนย้ายก็เสียชีวิตคาโต๊ะทำงาน ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่านักข่าวหนังสือพิมพ์ที่เคยถ่ายรูปโลงมัมมี่เอาไว้แล้วนำไปล้าง ภาพนั้นมีใบหน้ามัมมี่ที่น่ากลัวปรากฏอยู่บนฝาโลงพระศพ ช่างภาพผู้เคราะห์ร้ายเข้าไปในห้องนอน และยิงตัวตาย ไม่นานจากนั้นทางพิพิธภัณฑ์ได้ขายมัมมี่ให้แก่นักสะสมเอกชน และหลังจากที่เคราะห์ร้ายความตายเกิดขึ้นต่อในครอบครัวทำให้นักสะสมผู้นั้นนำโลง พระศพไปเก็บไว้ยังห้องใต้หลังคา

ต่อมา มาดาม เฮเลนนา บลาวาตสกี ผู้วชาญโด่งดังด้านเรื่องเร้นลับได้มาเยือนอาคารที่เก็บมัมมี่อาถรรพ์ ขณะที่เข้าสู่อาคารเฮเลนาเป็นลมจับไข้ตัวสั่นเหมือนโดนผีเข้า จากนั้นจึงค้นหาที่มาของอำนาจชั่วร้ายที่มีพลังรุนแรงอย่างน่ากลัว ในที่สุดเฮเลนาก็มาหยุดอยู่ที่ห้องใต้หลังคาและได้พบกับโลงมัมมี่เจ้าของบ้านขอร้องเธอ ช่วยให้ช่วยขับไล่อำนาจปิศาจมัมมี่ออกไป

"ปิศาจนั้นย่อมเป็นปิศาจชั่วนิจนิรันดร์ ไม่มีผู้ใดสามารถจัดการได้ ฉันขอให้คุณรีบกำจัดปิศาจร้ายนี้โดยด่วน" ทว่าไม่มีพิพิธภัณฑ์ในอังกฤษแห่งไหนยอมรับมัมมี่เลย เนื่องจากข่าวที่แพร่ว่า มีคนตายถึง20คนแถมยังประสบเหตุเคราะห์ร้ายและหายนะจากการเก็บรักษาหรือ เกี่ยวข้องกับโลงพระศพมัมมี่นี้ตลอม10ปีที่ผ่านมา จนเป็นที่โจษขานกันถึงอำนาจชั่วร้ายนี้

ในที่สุดก็มีนักโบราณคดีอเมริกันผู้ไม่เชื่อถือในเรื่องอาถรรพ์ของมัมมี่ ยินดีจ่ายเงินจำนวนมหาศาล เพื่อเคลื่อนย้ายมัมมี่มาที่นครนิวยอร์ก สั่งให้ขนส่งสมบัติชิ้นใหม่นี้มาให้ในเดือนเมษายนปีค.ศ.1912 โดยเรือโดยสารของบริษัทไวท์สตาร์ ลำใหม่ที่หรูหรา นำเจ้าหญิงอาเมน-รามาสู่นครนิวยอร์ก

ในราตรีของคืนที่14 เมษายนปีนั้นเอง ความหายนะอันน่าสะพรึงอย่างไม่เคยมีมาก่อนก็ปรากฏขึ้น เจ้าหญิงแห่งอาเมน-ราพาผู้โดยสารอีก1500คนสู่ความตาย ในก้นบึ้งมหาสมุทรแอตแลนติกเรือโดยสารลำนี้มีชื่อว่า เรือไททานิค ที่พวกเรารู้จักกันอย่างดีนั่นเอง

 


 

แล้วคนอื่นๆที่มีตัวตนจริงๆ ที่รอดชีวิตจากเรืออัปปางจริงๆล่ะ?

 

ผู้รอดตายคนสุดท้าย และมีอายุน้อยที่สุดจากเรือไททานิคลาโลกด้วยวัย 97 ปี

 

(1มิ.ย.) อลิซาเบ็ธ แกลดีส์ ดีน หรือที่เพื่อนๆเรียกว่า "มิลวิน่า" ผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่ จากการอัปปางของเรือสำราญ"ไททานิค" ที่พุ่งชนภูเขาน้ำแข็งในมหาสมุทรแอลตแลนติคเมื่อคืนวันที่ 14 เมษายน 2455 ซึ่งคร่าชีวิตคนไป 1,517 คน เสียชีวิตแล้วที่บ้านพักคนชราเอกชน ใกล้เมืองแอสเฮิร์สท์ ในเขตแฮมเชียร์ ทางใต้ของอังกฤษเมื่อวันอาทิตย์

 

ดีนคือหนึ่งในคน 706 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็กที่รอดชีวิต เธอเป็นผู้โดยสารบนเรือที่มีอายุน้อยที่สุดด้วย โดยเพิ่งอายุได้ 2 เดือนตอนที่เกิดเหตุ เธอถูกห่อตัวด้วยกระสอบและอุ้มออกจากเรือ จอร์แจ็ต อีวา มารดาของเธอ กับพี่ชายคือ เบอร์แทรม ก็รอดชีวิตเช่นกัน แต่เบอร์แทรมแฟรงค์ บิดาของเธอคือหนึ่งในผู้เสียชีวิต หลังจากเขาพาครอบครัวลงเรือที่เมืองเซาแทมตัน มุ่งหน้าจะไปหาชีวิตใหม่ที่รัฐแคนซัส ด้วยความหวังจะเปิดร้านขายยาสูบ

 

เรือ RMS ไททานิค คือเรือโดยสารขนาดใหญ่ที่สุด หรูที่สุด และใช้เทคโนโลยีก้าวหน้าที่สุดของโลกจนได้รับการขนานนามว่า" ไม่มีวันจม" (unsinkable) แต่ในการเดินทางเที่ยวแรก เรือใช้เวลาเพียง2 ชั่วโมงกับอีก 40 นาที ก่อนจมหายไปใต้น้ำแข็งเพราะชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็งเมื่อเวลา 23.40 น. ของคืนวันที่ 14 เมษายน

ดีนถูกพากลับบ้านที่เซาท์แทมตัน และไม่รู้ว่าตัวเองก็เคยอยู่บนเรือไตตานิค จนกระทั่งอายุได้8 ขวบ และมารดาจะแต่งงานใหม่ เธอทำงานเป็นนักเขียนแผนที่ของรัฐบาลสมัยสงครามโลกที่ 2 ก่อนจะไปทำงานให้บริษัทด้านวิศกรรมแห่งหนึ่ง และจู่ๆก็เพิ่งกลายเป็นคนดังหลังมีการพบซากเรือไททานิคเมื่อปี 2528 โดยได้มีส่วนร่วมในการจัดทำสารคดีและให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เธอตอบรับคำเชิญให้ขึ้นเรืออลิซาเบ็ธที่สองเดินทางไปสหรัฐฯเมื่อปี 2540 เพื่อสานต่อความฝันของครอบครัวที่จะไปอเมริกา แต่เธอปฏิเสธที่จะไปร่วมการฉายรอบปฐมทัศน์ของภาพยนต์เรื่อง"ไททาทิค" เมื่อปี2540 เพราะกลัวจะหดหู่มากเกินไป

 

ดีนย้ายไปอยู่บ้านพักคนชราหลังทำกระดูกสะโพกหักเมื่อ 3 ปีก่อน และดิ้นรนหาค่าใช้จ่ายจนต้องนำของที่ระลึกบางชิ้นออกประมูลขายเมื่อตุลาคม ปีที่แล้ว ขณะที่เพื่อนๆตั้งกองทุนหาเงินบริจาคเพื่ออนาคตของเธอ ซึ่งผู้บริจาคเงินรวมทั้งเคท วินสเลท , ริโอนาโด ดิคาปริโอ และเจมส์ คาเมรอนดารานำและผู้กำกับภาพยนต์เรื่องไททานิคด้วย

 

สำหรับผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายที่เป็นชาวอเมริกัน คือ ลิเลี่ยน แอสพลันด์ เสียชีวิตที่บ้านเมื่อพฤษภาคมปี 2549 ด้วยวัย 99 ปี เธออายุ 5 ขวบตอนที่ไททานิคอัปปาง

ถ้าคุณกำลังจะบอกว่า '' โรสกับแจ็คมีตัวตนจริงๆนะ เนี่ย...เมื่อไม่นานยังเห็นข่าวว่าโรสเพิ่งตายไปเนี่ยเอง ข้อมูลเอามามั่วรึเปล่า? ''

จะบอกว่าคนที่พึ่งตายคือ Lillian Asplund ซึ่งอายุ 97 ตอนตาย และ ตอนขึ้นเรือเค้าเพิ่งอายุ 2 เดือน ย้ำ 2 เดือน ไม่ใช่โรสสสส

 

Photogallery, foto, immagini, set, scatti, foto, photo, images del film


แล้วโรสตอนแก่ ที่มาเล่าเรื่อง คือ ยายโรส เป็นตัวละครสมมติขึ้นมา เพื่อดำเนินเรื่องว่า สมัยชั้นยังสาวนั้น ชั้นเจอแจ็คนะยะ บลาๆๆๆ เล่าให้กับนักขุดสมบัติฟัง แล้วเค้าแทนเรื่องเล่าด้วยภาพ เป็น เคท กับ ลีโอ คือมีตัวละครยายแก่โรสขึ้นมาเพื่อ ดำเนินเรื่อง เค้าอยากจะเริ่มเรื่องแบบนั้นเฉยๆ แทนที่จะเริ่มมาเป็น แจ็คชนะพนันเลย แค่นั้น มันไม่ได้บอกว่า มีตัวตนจริงสักหน่อย

กลับไปดูอีกรอบเลย ว่าโรสตอนแก่ มันเป็นส่วนหนึ่งของหนัง ไม่ใช่เป็นภาพข่าวจริง นะจ๊ะ

 

Photogallery, foto, immagini, set, scatti, foto, photo, images del film

'' สรุป ตัวละครเอกจะมีจริงหรือไม่นั้น มันไม่สำคัญหรอก เพียงเรามีความสุขกับหนังที่เราชอบก็เพียงพอแล้ว ''

 

จากข้อมูลที่เราหาและดูมา หลายแห่งก็บอกไว้ว่าแจ็คกับโรสไม่มีตัวตน แต่ถ้าคุณเข้ามาเพื่อถกเถียงกันเรื่องนี้ ก็ปิด X ไปเลย อย่าให้ ไททานิค กลายเป็นชนวนทะเลาะกันเลย ขอร้อง

 

ถ้ายังไม่หายสงสัย เนี่ยเลยกดเบาๆไม่ต้องรีบ เดี๋ยวเม้าส์พัง http://www.iseehistory.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=5359350&Ntype=3

 

หรือหากยังคล่องใจไม่หาย ดันกระหายอยากดูเบื้องหลังล่ะก็...

 

2 คลิปนี้...ช่วยคุณได้!!

 

ขอขอบคุณ -กระต่ายขาวจอมขี้เกียจ- < My.iD >


⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
KengInMaKa's profile


โพสท์โดย: KengInMaKa
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
260 VOTES (4.4/5 จาก 59 คน)
VOTED: CAREY
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เด็กรุ่นใหม่เป็นงง (⊙_⊙) สิ่งนี้เรียกว่าอาหารเช้าแบบไทยได้ด้วยเหรอ?ไม่ธรรมดา! "น้องยี่หวา" คัฟเวอร์ "ลิซ่า RockStar"..แค่คืนเดียวก็ 5 ล้านวิวแล้ว!!ดอกไม้ที่หายากที่สุดในโลกภาพแรกเกิดของ นาย ณภัทร พร้อมคุณแม่กับคุณพ่อชายหนุ่มผวา! ประตูหมุนเองกลางดึก เจอ "ตัวร้าย" สุดคาดคิดทึ่งทั่วโลก : หมู่เกาะข้ามเวลา" สถานที่-ที่ห่างกันเพียง 4 กิโลเมตร แต่เวลาต่างกันถึง 21 ชม.ทำไมในตัวเมืองต่างจังหวัด ไม่มีตึกสูงๆเหมือนในกรุงเทพฯ'สาวน้อยผู้ดิ้นรน' หนึ่งในภาพถ่ายน่าเศร้าที่โด่งดังมากที่สุดในโลกงานพิธีศพที่ใหญ่ที่สุด และมีจำนวนผู้ร่วมงานมากที่สุดในประวัติศาสตร์
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ทำไมในตัวเมืองต่างจังหวัด ไม่มีตึกสูงๆเหมือนในกรุงเทพฯดอกไม้ที่หายากที่สุดในโลกภาพแรกเกิดของ นาย ณภัทร พร้อมคุณแม่กับคุณพ่อพันธุ์ไม้หายาก ที่พบเพียงที่เดียวในโลกที่จังหวัดลพบุรี
ตั้งกระทู้ใหม่