ย้อนรอยประวัติ นายโอซามา บิน ลาเดน

scoop ประวัติ"โอซามา บิน ลาเดน"

                                                                                             
คุณคิดว่าเขามีส่วน ในการก่อวินาศกรรมสหรัฐ จริงหรือ ????

ภาพตัดต่อ บินลาเดน ขณะเสียชีวิต เมื่อเอามาเทียบกันกับภาพด้านขวามือ มีความเหมือนกัน

(2พ.ค.) เว็บไซต์ CNN และอัล จาซีร่า รายงานว่า อุสมา บิน ลาเดน ผู้นำเครือข่ายก่อการร้ายอัล ไกดา เสียชีวิตแล้ว และศพของเขาอยู่ในมือของสหรัฐ ซึ่งประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า ได้เตรียมจะประกาศเรื่องนี้ หลังจากใช้เวลาเกือบ 10 ปี ในการใช้ปฏิบัติการไล่ล่าบุคลลที่ได้ชื่อว่าเป็น ผู้ก่อการร้ายตัวฉกาจ ที่อยู่เบื้องหลังเหตุวินาศกรรมโจมตีสหรัฐ เมื่อวันที่ 11 กันยายน

เรื่องนี้ ถูกเปิดเผยโดยเจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐที่ไม่เปิดเผยว่า แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดถึงสาเหตุการเสียชีวิตของเขา แต่ผู้นำสหรัฐ ได้เตรียมจะประกาศให้ชาวอเมริกันทราบในคืนวันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งนับเป็นการปรากฎตัวทางโทรทัศน์ที่ไม่ธรรมดา ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงแห่งชาติอย่างสูง ในเวลาประมาณ 03.00 น. ตามเวลามาตรฐานหรือราว 10.00 น. ตามเวลาในไทย

กองทัพสหรัฐ ได้ใช้ปฏิบัติการไล่ล่าบิน ลาเดน มานานหลายปี และเพิ่มความพยายามเป็นสองเท่า หลังเกิดวินาศกรรมโจมตีตึกแฝดเวิร์ลด์ เทรด ที่นิวยอร์ค และกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 พันคน แต่บิน ลาเดน สามารถหลุดพ้นจากการไล่ล่าไปได้อย่างหวุดหวิดทุกครั้งและเชื่อว่า เขาจะซ่อนตัวอยู่บริเวณชายแดนด้านที่ติดกันระหว่างปากีสถานและอัฟกานิสถาน

ต่อมาประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ ประกาศว่า โอซามา บิน ลาเดน ผู้นำเครือข่ายก่อการร้ายอัลไกด้า ที่อยู่เบื้องหลังการก่อวินาศกรรม 11 กันยายน เสียชีวิตแล้ว และความยุติธรรมได้เกิดขึ้นแล้ว

โอบามาแถลงผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์เมื่อคืนวานหรือตรงกับเวลา 10.30 น.เช้านี้ตามเวลาไทย โดยระบุว่าโอซามา บิน ลาเดน เสียชีวิตภายในที่ซ่อนตัวของเขาในปากีสถานจากปฏิบัติการโจมตีภาคพื้นดินของกองกำลังสหรัฐ และสามารถนำศพของเขามาได้  พร้อมกันนี้เขาเปิดเผยว่า ได้รับรายงานสรุปเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วว่าสามาถได้เบาะแสเกี่ยวกับที่อยู่ของบิน ลาเดน ว่าซ่อนตัวอยู่ในปากีสถาน และเขาเพิ่งอนุมัติเมื่อสัปดาห์ที่แล้วให้ดำเนินการจับตัวบิน ลาเดน

บิน ลาเดน เป็นศัตรูหมายเลข 1 ที่สหรัฐต้องการตัวมากที่สุด และได้ตั้งรางวัลนำจับไว้สูงถึง 25 ล้านดอลลาร์หรือราว 750 ล้านบาท เนื่องจากเขาเป็นผู้บงการก่อวินาศกรรมช็อคโลกที่ใช้เครื่องบินพุ่งชนตึก 2 ลำชนตึกเวิลด์เทรด เซนเตอร์ในนครนิวยอร์ก และอีก 1 ลำชนตึกกระทรวงกลาโหมในกรุงวอชิงตัน ส่วนอีกลำตกลงกลางทุ่งก่อนถึงเป้าหมายในรัฐเพนซิลเวเนีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมเกือบ 3,000 ราย

โอบามาบอกว่า เป็นเวลากว่า 20 ปีที่บิน ลาเดนได้เป็นผู้นำและสัญลักษณ์ของอัลไกด้าและได้วางแผนโจมตีสหรัฐ และชาติพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง การเสียชีวิตของเขาจึงเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญที่สุดสำหรับความพยายามของสหรัฐในการกวาดล้างเครือข่ายอัลไกด้า แต่การเสียชีวิตของเขาไม่ได้หมายถึงการสิ้นสุดความพยายามปราบปรามการก่อการร้าย เพราะแน่นอนว่าอัลไกด้าจะยังพุ่งเป้าก่อเหตุโจมตีสหรัฐอีกต่อไป และเราต้องระมัดระวังเพื่อปกป้องพลเรือนชาวอเมริกันและชาติพันธมิตร แต่เวลานี้เราสามารถบอกกับครอบครัวที่สูญเสียคนรักในเหตุก่อการร้ายฝีมืออัลไกด้าว่า ความยุติธรรมได้เกิดขึ้นแล้ว

หลังมีรายงานข่าวการเสียชีวิตของบิน ลาเดน มีฝูงชนชาวอเมริกันจำนวนหนึ่งมารวมตัวกันที่ด้านนอกทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน ตะโกนว่า ยูเอสเอ ยูเอสเอ บางคนโบกธงชาติและชูกำปั้นขึ้นพร้อมกับร้องเพลงชาติสหรัฐ ตั้งแต่ก่อนที่โอบามาจะออกมาแถลงข่าว ฝูงชนเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วจากเพียงไม่กี่สิบคนเป็นหลายร้อยคนนอกจากนี้ข่าวแพร่สะพัดทางอินเตอร์เน็ตอย่างรวดเร็วทั้งในทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ค บางคนโพสข้อความว่า ในที่สุดเขาก็สามารถนอนหลับได้ในคืนนี้หลังทราบข่าวและบอกว่ามีความสุขมาก 

ย้อนรอยประวัติบิน ลาเดนแกนนำกลุ่มอัล ไกดา

 นายโอซามา บิน ลาเดน แกนนำกลุ่มอัล-ไกดา เป็นกลุ่มของเกิดเมื่อปี 2500 เป็นมหาเศรษฐีชาวซาอุดิอาระเบีย ในวัยเด็กอาศัยอยู่ที่เมืองอัลมาดินา อัลมูนอว์วารรา และเมืองไฮจาซ์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย การศึกษาขั้นต้นที่ โรงเรียนเจดดา ระดับอุดมศึกษาเข้าเรียนด้านบริหาร และวิศวกรรมโยธา ณ มหาวิทยาลัยคิง อับดุลอาซิซ สำเร็จการศึกษาปี 2522 แต่งงานแล้ว มีบุตรหลายคน ได้แนวความคิดมาจากการต่อสู้ของชาวเมืองธันนา และจามา

 ตามหลักการความเข้าใจว่า บรรพบุรุษของพวกเขาได้ต่อสู้กันมาอย่างถูกต้องแล้ว ทั้งด้านรวมและรายละเอียด ตั้งแต่นั้นมา บิน ลาเดน จึงยึดหลักการจับอาวุธขึ้นต่อสู้ และการฝึกอาวุธให้พร้อม โดยจะร่วมมือกับมุสลิมประสานกันเป็นฝ่ายหนึ่ง ภายใต้หลักการนับถือพระเจ้าองค์เดียว รวบรวมพวกที่แตกแยกทางความคิดเอาไว้ด้วยกัน

 บิน ลาเดน เริ่มทำการติดต่อระหว่างกลุ่มมุสลิมต่าง ๆ ในปี 2516 ดำเนินต่อไปจนกระทั่งได้ประกาศสงครามศักดิ์สิทธิ์ในประเทศอัฟกานิสถาน ซึ่งเขามีส่วนร่วมด้วยในช่วงปี 2523 จับมือกลุ่มมูจาฮีดีน ทำสงครามต่อต้านรัฐบาลคอมมิวนิสต์ในประเทศเยเมนใต้ และในปี 2533 ด้วยเช่นกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อล้มล้างพรรคคอมมิวนิสต์

 บิน ลาเดน ได้ร่วมมือกับ ดร.อับดุลลาห์ อัธซัม ตั้งสำนักงานมูจาฮีดีน ขึ้นในเมืองเปชวาร์ ในปากีสถานและยังตั้งค่ายซิดดา สำหรับปฎิบัติการฝึกซ้อมให้กับกองโจรอาหรับมูจาฮีดีน ซึ่งได้เข้าไปทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ในอัฟกานิสถาน การเดินทางเข้าไปครั้งแรกของเขา เพื่อช่วยกองกำลังมูจาฮีดีน ในอัฟกานิสถาน มีขึ้นหลังจากทหารรัสเซียบุกอัฟกานิสถานเมื่อปี 2522 ต่อมาเขาได้ตั้งค่ายสำหรับกองกำลังมูจาฮีดีน ในอัฟกานิสถาน เมื่อปี 2529 และได้ร่วมทำสงครามจาลา ลาบัด เคียงข้างกองกำลังมูจาฮีดีนในปี 2532 ถือว่าเป็นศึกครั้งใหญ่อีกครั้งของชาวอัฟกานิสถาน

 บิน ลาเดน เดินทางออกจากคาบสมุทรอาระเบียในปี 2534 เมื่อรัฐบาลซาอุดิอาระเบียสั่งให้เขาเดินทางกลับ แต่ได้รับการปฎิเสธ ดังนั้น รัฐบาลซาอุดิอาระเบีย จึงเพิกถอนสัญชาติ ยกเลิกหนังสือเดินทาง และอายัดทรัพย์สินทั้งหมด บิน ลาเดน ต้องเดินทางไปซูดาน ไปอาศัยอยู่ได้นายฮัดซัน อัล ตูราบี ผู้นำศาสนาของประเทศซูดาน ซึ่งถูกขึ้นบัญชีเป็นประเทศให้การสนับสนุนผู้ก่อการร้ายในปี 2536 สหรัฐและมหาอำนาจตะวันตกกดดันรัฐบาลซูดาน

 ด้วยการขู่คว่ำบาตร จนในที่สุดต้องตัดสินใจให้ บิน ลาเดน ออกนอกประเทศในปี 2539 หลังจากนั้น บิน ลาเดน กลับไปซ่องสุมกำลังอยู่ในอัฟกานิสถานอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นช่วงที่กลุ่ม "ทำเลบัน" ยึดพื้นที่ส่วนใหญ่ของอัฟกานิสถาน

 ฐานกำลังของนายบิน ลาเดน เป็นถ้ำในภูเขาในเมืองกันดาร์ฮาทางตอนใต้ของประเทศมีเครื่องมืออันทันสมัย ฐานะทางการเงินเขามีเครือข่ายธุรกิจอย่างกว้าง และหลากหลายเฉพาะของบิดาที่ให้มรดกเขาเป็นเงินสดกว่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ "บิน ลาเดน เชื่อว่า คนอเมริกาเป็นมหาโจรรายใหญ่ที่สุดในโลก และคนอเมริกา เป็นผู้ก่อร้ายรายใหญ่ที่สุดในโลก"

 สหรัฐอเมริกาใช้กลยุทธใหม่ เพื่อไล่ล่า นายโอซามา บิน ลาเดน เสนอเงินรางวัลมูลค่า 5 ล้านเหรียญ ให้แก่ผู้ที่นำไปสู่การจับกุม โดยกล่าวหาว่า บิน ลาเดน มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีชาวอเมริกากันหลายครั้ง เช่น วางระเบิดในกรุงริยาดและเมืองดาราล ของซาอุดิอาระเบีย เมื่อปี 2538 และ 2539 ในครั้งทำให้ทหารสหรัฐฯ เสียชีวิต 24 คน ระเบิดตึกเวิร์ดเทรด เซ้นเตอร์ ที่นครนิวยอร์คของสหรัฐฯในปี 2536 ระเบิดสถานทูตในเคนยา และแทนซาเนีย เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 41 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 263 คน กลุ่มทะเลบันภายใต้การนำของนักรบตาเดียว

 นายมูลลาห์ โมฮัมมัด โอมาร์ ได้ประกาศท้าทายสหรัฐฯ โดยกำหนดเส้นตายให้สหรัฐฯ พิสูจน์ให้ได้ว่า นายบิน ลาเดน เป็นผู้ก่อการร้ายตัวจริง ภายในวันที่ 20 พ.ย.41 หากพ้นกำหนดแล้ว สหรัฐฯ ไม่สามารถพิสูจน์ได้ อัฟกานิสถานถือว่า บิน ลาเดน เป็นผู้บริสุทธิ์ ในเดือนมิถุนายน 2544 กลุ่มอัล-ไกดา ได้มีการระดมกำลังกันเพื่อโจมตีเป้าหมายของสหรัฐฯ และอิสราเอลครั้งใหญ่ในเร็ววันนี้ทั่วโลก จากการยืนยันของนายอาบู ฮัฟส์ ลูกน้องมือขวาของ นายบิน ลาเดน และนายเอย์มาน อัล ซาวาฮิริต ผู้นำกลุ่มอิสลามิก จิฮัด ในอียิปต์

 นอกเหนือจากความเชื่อทางศาสนาแล้ว เป็นไปได้ว่า นายบิน ลาเดน เครียดแค้นสหรัฐฯ เป็นการส่วนตัวด้วยการไล่ล่าตามรังควานสหรัฐฯ จนบิน ลาเดน ต้องระเหเร่ร่อนอยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง น่าจะทำให้เขาผูกใจเจ็บ บิน ลาเดน กล่าวว่า " เราควรถือว่า ผู้ต้องหาบริสุทธิ์ จนกว่าพิสูจน์ชัดว่า ทำผิดจริง แต่กับนักรบชาวอัฟกันกลับไม่เป็นเช่นนั้น คนเหล่านี้เป็นผู้ก่อการร้ายของโลก การไล่ต้อนให้พวกเขาหลังชนฝา ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใดเลย นอกจากจะทำให้มีการก่อการร้ายหนักมือยิ่งขึ้น"

 บิน ลาเดน ประกาศเป็นศัตรูกับสหรัฐในเดือนกันยายน 2539 โดยระบุชาวซาอุดิอาระเบียมีสิทธิ์โจมตีกองทหารอเมริกัน จำนวน 5,000 คน ที่ประจำการอยู่ในซาอุดิอาร และใน "ฟัตวา" และในเดือนกุมภาพันธ์ 2541 บิน ลาเดน เรียกร้องให้ชาวมุสลิมฆ่าทหาร และพลเรือนอเมริกันที่พบเห็นทุกหนแห่ง

 บิน ลาเดน ดูจะไม่สนใจกับรูปแบบวิธีการมากเท่าใดนัก ตราบเท่าที่สามารถสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สิน ศักดิ์ศรี และอิทธิพลของสหรัฐฯ ได้อย่างเด่นชัด ซึ่งเห็นได้จากการออกมากล่าวชมเชยการโจมตีเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ

 สำหรับสถานการณ์ที่น่าเชื่อว่าเป็นฝีมือของ โอซามา บินลาเคิน

 1.เหตุระเบิดที่ เคนยา พันซาเฟีย ถูกระบุว่าเป็น บิน ลาเดน โดยผู้ต้องหาที่จับกุมได้ให้การซัดทอด จึงทำให้รู้จักชื่อ บิน ลาเดน

 2.พฤติกรรม ใช้รถบรรจุระเบิดไปจอดหน้าสถานทูต แล้วกดรีโมท ทำให้ระเบิด

 3.เหตุเรือพิฆาต ของ สรอ โนเยเมน ถูกระเบิด บิน ลาเดน ออกมาว่า ลงทุนน้อยแต่ได้กำไรมาก

 4.บิน ลาเดน ประกาศสงคราม 3 อาทิตย์ แล้วทำจริง ซึ่งตรงกับคำที่ประกาศ เราจะโจมตีในรูปแบบที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน ซึ่งใช้เครื่องบิน เนื่องจากเดิมใช้รถแล้วมาเป็นเรือ แต่สุดเป็นเครื่องบิน ซึ่งไม่เคยปรากฎมาก่อน

 5.กลุ่มก่อการร้าย ไม่ออกมาแสดงความรับผิดชอบ เพราะต้องการผลงาน แต่ บิน ลาเดน ถือว่าเป็นคู่กรณีของสหรัฐอเมริกา.โดยตรงอยู่แล้ว จึงไม่ต้องผลงานซ้ำอีก

 ที่มาข่าวจาก คมชัดลึก
ภาพจากอินเตอร์เน็ต