ประเทศสิงคโปร์

 

ประเทศสิงคโปร์   ประเทศนี้มีรายได้เฉลี่ยต่อหัว 50,180 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อปี ซึ่งถือว่าสูงมาก มีภาษาราชการถึง4 ภาษา

นั้นก็คือ ภาษาอังกฤษ ภาษาจีนกลาง ภาษามาเลย์ ภาษา ทมิฬ

 

 

 

 

 

 

 บรูไน (Brunei) หรือ รัฐบรูไนดารุสซาลาม (State of Brunei Darussalam)

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ประเทศนี้มีรายเฉลี่ย 47,930 ดอลลาร์สหรัฐ  ต่อคนต่อปี  เป็นประเทศที่มีความร่ำรวยด้วยทรัพยากรน้ำมัน

มีเมืองหลวงชื่อ บันดาร์เสรีเบกาวัน ทั้งประเทศมีประชากรเเค่ 408,146  คนเอง ทำให้รัฐมีสวัสดิการอย่างทั่วถึง

 

 

 

ประเทศมาเลเซีย Kuala Lumpur
كوالا لومڤور
吉隆坡
கோலாலம்பூர்

 

 

  

  

   

 

 

 

 

 

 

ประเทศมาเลเซียในอีกไม่เกิน7ปีข้างหน้าเขาจะประกาศเป็นประเทศที่พัฒนาเเล้ว มาเลเซียกำลังเร่งพัฒนาประเทศตัวเองเพื่อเที่ยบชั่น

กับประเทศสิงคโปร์ ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศมาเลเซียเอง

ประเทศมาเลเซีย มีรายได้เฉลี่ยต่อหัว 12,700 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อคนต่อปี มีเมืองกัวลาลัมเปอร์เป็นเมืองหลวงมีที่ประชากรประมาณ 1,809,699 คน

 

 

 

 

ประเทศไทย หรือชื่อทางการว่า ราชอาณาจักรไทย

 

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีทั้งพลเมืองที่เป็นมิตรเเละวัฒธรรม ความทันสมัยที่ที่ผสมกันลงตัวจนเป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวมากสุดในอาเซียน

ประเทศไทยมีรายได้เฉลี่ยต่อหัว 9,727 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปี มีกรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงซึ่งมีประชากรประมาณ

5,702,595 คน

 

 

 

 

 

ประเทศฟิลิปปินส์  หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์

 

 

 

 

   

หลายคนคงเคยรู้กับประเทศฟิลิปปินส์ เเต่หลายต่อหลายคนคงไม่เคยไปเที่ยวฟิลิปปินส์ผมเชื่อแบบนั้น ฟิลิปปินส์เคยเจริญมาก่อนไทยเเละเจริญรุ่งเรืองมากในสมัย40 50 ปีที่เเล้ว มีมหาลัยที่ดีเเละมีชื่อเสียงที่คนไทยเคยเลือกไปเรียนเป็นอันดับต้นๆ

เเล้วรู้หรือไม่ว่าฟิลิปปินส์เป็นประเทศเเรกในอาเซียนที่มีรถไฟฟ้าใช้ มีก่อนประเทศไทยถึง 25 ปี รองมาคือสิงคโปร์ มาเลเซีย เเละไทย(เวียดนามกำลังสร้างเป็นประเทศที่ 5) เเต่ปัจจุบันรถไฟฟ้าในประเทศฟิลิปปินส์กับกลายเป็นรถไฟฟ้าที่มีระบบหล้าหลังที่สุดในอาเซียน เเละทรุดโทรมอยางหนัก เนื่องจากขาดการบำรุงรักษา เนื่องจากมีปัญหาทางการเมืองเเละคอรัปชั่นอย่างรุ่นเเรงในประเทศ
ภาพข้างบนคือตัวเมืองตั้งอยู่ย่านมาคาตี ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมโทรมะนิลา หรือที่กรุงมะนิลา ซึ่งย่านนี้ของฟิลิปปินส์เป็นย่านที่เที่ยบได้กับสีลม หรือสุขุมวิทของไทย

ประเทศนี้มีรายได้เฉลี่ยต่อหัว 4,923 ดอลลาร์สหรัฐ  ต่อคนต่อปี มีเมืองเหลืองซื่อ กรุงมะนิลาที่มีประชากรประมาณ 1,581,082 คน
โดยในเขตมะนิลานี้ประชากรถึง35% อาศัยอยู่ในเขตสลัมกรุงมะนิลา

 

 

 

ประเทศอินโดนีเซีย

 

 

ประเทศอินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในอาเซียน ประมาณ 240,271,522 คน

 

ประเทศนี้มีรายด้เฉลี่ยต่อหัว 4,458 ดอลลาร์สหรัฐ  ต่อคนต่อปี  มีเมืองหลวงซื่อว่ากรุงจาการ์ต้า มีประชากรในเมืองหลวงประมาณ  8,489,910 คน

 

 

 

 

 

 

หลายปีมานี้เศรษฐกิจเวียดนามเติบโตเฉลี่ยปีละ 7.5% ปีที่แล้วตัวเลขเป็น 8.1% ต่ำกว่าเป้าเล็กน้อยเพราะความผันผวนด้านในเรื่องราคาน้ำมันดิบโลก และ ยังถูกไต้ฝุ่นเล่นงานหนักๆ ถึง 3 ลูก

ส่วนปี 2550 นี้ เวียดนามวางเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจเอาไว้ที่ 8.2-8.5%

ลองมาดูความเฮงอันเป็นภาพรวมที่สำคัญกันบ้าง :

1. การลงทุนของต่างชาติในปี 2549 ทะลุ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไม่คาดไม่ฝัน ทั้งๆ ที่ตั้งเป้าเอาไว้เพียง 6,500 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าปี 2548 ที่ทำได้เพียง 6,200 ล้านดอลลาร์

ในปี 2547 ตัวเลขการลงทุนของต่างชาติคิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ในปี 2548-2549 สัดส่วนเงินลงทุนของต่างชาติในจีดีพีของเวียดนามย่อมจะสูงกว่านั้นอย่างมากมาย

2. การส่งออกดีวันดีคืน ประเทศนี้ส่งออกน้ำมันดิบมากเป็นอันดับ 3 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากอินโดนีเซียและมาเลเซียโดยแซงหน้าประเทศบรูไนมาหลายปีแล้ว

การส่งออกสินค้าที่ไม่ใช่น้ำมันดิบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าการเกษตรก็สูงขึ้นทุกตัว ยกเว้นข้าวที่ส่งออกได้น้อยลงในปีที่ผ่านมา เพราะความต้องการใช้บริโภคในประเทศสูงขึ้น อันเนื่องมาจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ

ถึงกระนั้นเวียดนามก็ยังเป็นรองแชมป์ผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก คือเป็นรองจากประเทศไทยเท่านั้น

เวียดนามยังได้กลายเป็นประเทศส่งออกกาแฟรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก รองจากประเทศบราซิล และ เมื่อปีที่แล้วก็เป็นปีแรกที่มูลค่าส่งสินค้ารายการนี้พุ่งทะลุ 1,000 ล้านดอลลาร์ขึ้นไป เช่นเดียวกันกับการส่งออกยางพาราที่มีมูลค่าถึง 1,300 ล้านดอลลาร์

การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งเสื้อผ้าสำเร็จรูปกับเครื่องนุ่งห่ม ต้องเรียกว่าไปโลด อีกเช่นกัน โดยมีตลาดใหญ่ที่สหรัฐฯ กับสหภาพยุโรป

การส่งออกรองเท้าปีที่แล้วเจออุปสรรคใหญ่ เวียดนามถูกอีซีกล่าวหาว่าทุ่มตลาดและโดนมาตรการตอบโต้ แต่ตัวเลขส่งออกสินค้าหมวดนี้ก็ยังเพิ่มขึ้น

3. เมื่อปีที่แล้วตลาดทุนเวียดนามเติบโตรวดเร็วมาก ศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์นครโฮจิมินห์ซึ่งเป็น "ตลาดหุ้น" แห่งแรกของประเทศ ขยายตัวกว่า 160% ตอนสิ้นปี เทียบกับตอนเริ่มปีใหม่

ต้นปี 2549 ศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์โฮจิมินห์ มีบริษัทจดทะเบียนเพียง 43 แห่ง ถึงสิ้นปีได้เพิ่มขึ้นเป็น 70 แห่ง มูลค่ารวมของตลาดเพิ่มขึ้นแบบทุบทุกสถิติ ที่ศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ฮานอยก็ไม่ได้แตกต่างกัน

ดัชนีหุ้นเวียดนาม (VN Index) ได้พุ่งขึ้นทำสถิติใหม่ๆ เกือบจะทุกวันนับตั้งแต่เปิดทำการวันแรกในปีนี้ ดัชนีปิดลงที่ 865 จุดเมื่อวันพุธ (10 ม.ค.) เทียบกับ 809 จุด ที่ทำเอาไว้ก่อนสิ้นปี 2549

รัฐบาลได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจะนำธนาคารของรัฐ 4 แห่งเข้าจดทะเบียนในตลาดตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไปจนถึงปี 2553 รวมทั้งธนาคารเวียดนามคอม (Vietcombank) หรือ Bank of Indochina แห่งอดีต ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ

ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของรัฐวิสาหกิจกับบริษัทของรัฐรวม 71 แห่งที่จะเข้าจดทะเบียนในช่างปีเดียวกันนี้ ในนั้นมีบริษัทสายการบยินแห่งชาติ คือ เวียดนามแอร์ไลนส์รวมอยู่ด้วย

ประเทศเวียดนามมีรายได้เฉลี่ยต่อหัว  4,000 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อคนต่อปี มีเมืองหลวงคือกรุงฮานอย กรุงฮานอยมีประชากรประมาณ6,232,940 คน

 

 

ประเทศกัมพูชา

 

 

ประเทศกัมพูชา หรือที่คนไทยเรียกเขมร เป็นประเทศเพื่อนบ้านของไทยที่ปัจจุบันกำลังมีปัญหาชายแดนเเละขัดเเย้งกับไทยอยู่ขณะนี้

ประเทศนี้มีรายได้เฉลี่ยต่อหัว 2,500 ดอลลาร์สหรัฐ  ต่อคนต่อปี มีเมืองหลวงที่ซื่อว่า กรุงพนมเปญ มีประชากรในเมืองนี้ประมาณ2,000,064 คน

 

 

ประเทศลาว หรือสาธารณรัฐประชาธิปไตย

 

ประเทศลาวถือว่าเป็นประเทศเพื่อนบ้านของไทยที่มีภาษาเเละวัฒนธรรมคล้ายๆกัน จนสามารถสือสารกันโดยต่างคนต่างใช่ภาษาของตนเอง ประเทศลาวมีรายได้เฉลี่ยต่อหัว 1,900 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อคนต่อปี มีเมืองหลวงซื่อว่า นครหลวงเวียงจันท์ มีประชากรในเมืองนี้ประมาณ692,900 คน

 

 

 

ประเทศพม่า

 

 

 

 

ประเทศพม่า  Burma หรือ Myanmar) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า

 

มีรายได้เฉลี่ยต่อหัวประมาณ 1,800 ดอลลาร์สหรัฐ  ต่อคนต่อปี

 

มีเมืองย่างกุ้งเป็นเมืองหลวงเก่า มีประชากรประมาณ 4,504,000

 

 

 

 

 

ประเทศติมอร์ตะวันออก   หรือ ติมอร์-เลสเต หรือมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต

เป็นประเทศเกิดใหม่ใน พ. ศ. 2545 นี้เอง

มีเมืองหลวงซื่อว่า  ดิลี  ประชากรในเมืองนี้ประมาณ 150,000 มีรายได้เฉลี่ยต่อหัว 400 ดอลลาร์สหรัฐ  ต่อปี ซึ่งถือว่าน้อยมาก ยังเป็นประเทศที่ยากจนมากเพราะยังขาดปัจจัยอะไรหลายอย่างที่ต้องพัฒนาอีกมาก

 

 

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจากเว็ป http://th.wikipedia.org เเละ http://www.skyscrapercity.com  เรียบเรียงข้อมูลโดย

 

เจ้าของกระทู้เอง ครับ ผิดพลาดสิ่งใหนขออภัยด้วยครับ ขอคะเเนนโหวตด้วยน่ะครับ