ต่อมาขอพูดถึงการผ่าตัด วีไลน์(v-line)
หน้าแบบวีไลน์คือหน้ารูปไข่นั่นเอง คางมนๆ เรียวๆ
การผ่าตัดวีไลน์ก็คือการผ่าตัดช่วงล่างของใบหน้าให้แคบและเรียวลงนั่นเองมีการผ่าตัดรวมสองขั้นตอนค่ะ
1.
เป็นการผ่าตัดลดขนาดกราม
(ตัดมุมกรามและตัดแยกกระดูกด้านนอกออก)
2.
ลดความกว้างของกระดูกคาง
ไม่ขอกล่าวในส่วนของการผ่าตัดลดขนาดกรามนะค่ะเพราะได้พูดแล้วข้างต้น
การลดความกว้างของกระดูกคางดูได้จากรูปชัดเจนเลยค่ะ
สนนราคาในการผ่าตัดวีไลน์นั้นก็บวกไปสอง
เท่าตัวของการผ่าตัดกรามค่ะ(คำนวณดู นะค่ะ ) อาจจะมีส่วนลดในบางคลีนิคถ้าทำการผ่าตัดเกิน 10,000 USD
ค่ะ
มาดูรูปตัวอย่างวีไลน์กันเลยค่ะ
เป็นรูปตัวอย่างจาก ID Hospital ค่ะ(ที่เอาตัวอย่างจากไอดฮอสพิทัลมา
เนื่องจากว่าเห็นเขาว่ากันว่าที่นี่จะเชี่ยวชาญด้านนี้ที่สุดค่ะ
เราว่าคางแหลมไปนิดหรือเปล่าค่ะ? แต่ถ้ายิ้มอาจจะกำลังพอดี
เอะหรือว่าคางพอดีแล้วแต่ส่วนโหนกแก้มยังกว้างอยู่เลยดูคางแหลม? (ความเห็นส่วนตัวอีกเช่นเคย
อิอิ)
-------------------------------------------------
การผ่าตัดลดโหนกแก้ม (Cheek (Zygoma) Reduction)
ก็เป็นอีกวิธีนึงในการลดความกว้างของใบหน้าโดยเฉพาะชาวเอเชียอย่างเราๆ
ทีนี้ถามว่าเกาหลีกับไทยต่างกันไหม
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจถึงโครงสร้างโหนกแก้มของเรากันก่อนว่าในการจะลด
ความกว้างของโหนกแก้มนั้นมีสามจุด กระดูกโหนกแก้มนั้นจะมีส่วน body และ arch ส่วนบอดี้คือส่วนหน้า
(หมายเลข 1) เป็นส่วนที่เพิ่มความนูนของใบหน้าทำให้หน้าเกิดมิติ ส่วนที่ 2 ก็เช่นกัน
ซึ่งคนแถบๆเอเชียนั้นจะมีส่วนนี้มากกว่าคนแถวๆยุโรป (สังเกตุได้ว่าคนยุโรปมักจะชอบเสริมโหนกแก้ม
ซึ่งเป็นการเสริมส่วนนี้ค่ะ) และ ส่วน 3 คือส่วนด้านข้าง (arch)
คือส่วนกำหนดความกว้างของใบหน้าเรานี่ละ
ในการลดความกว้างและความสูงของโหนกแก้ม
นั้นการตัดกรอกระดูกโหนกแก้มมักจะไม่ ได้ผลสักเท่าไรเพราะกระดูกโหนกแก้มเป็นกระดูกที่บาง
และอาจจะส่งผลในอนาคตเมื่อกระดูกเราบางลง
การผ่าตัดลดโหนก แก้มที่เกาหลีนั้น
จะขอกล่าวถึงวิธีที่ทราบว่าเขาทำๆกันนะค่ะ คือเคยได้ยินเพื่อนบอกว่าที่เกาหลีเขาทุบโหนกแก้มกัน
(เห็นจากทีวี) อันนี้จากการที่ศึกษามา ไม่เห็นคนไปทุบ ก็เลยไม่แน่ใจสักเท่าไรว่าเขามีกี่วิธี
อันนี้ขอกล่าวถึงวิธีทั่วไปที่คลีนิค หรือโรงพยาบาลหลายๆแห่งที่เกาหลีนิยมกัน
หลายๆคลีนิคก็จะมีการตัดส่วนที่ 1 กับ 3 (หมอบางท่านก็ตัดส่วนที่ 2 ด้วยอย่างเช่นหมอPark ที่
Ozclinic เขากล่าวว่ามันทำให้เมื่อยุบทั้งสามจุดแล้ว ทำให้ดูกลมกลึงขึ้นกว่าการตัดยุบแค่สองจุด )
แล้วเลื่อนกระดูกที่ตัดเข้าไปไปหลังจากนั้นก็ใช้ตัวช่วยในการยึดกระดูกให้ ติดกัน ไม่ว่าจะเป็นสกรู
ลวดหรือมินิเพลต (mini-plate)
จากรูปการผ่าตัดแบบติดลวด mini
plate,หรือสกรูค่ะ
บางคลีนิคก็จะทำการผ่าตัดสองทาง คือผ่านทางจอนผมแผลเป็นประมาณ 3 มิลลิเมตร
กับเข้าทางปากเพื่อไปตัดส่วนหน้าของโหนกแก้ม บางคลีนิคก็ผ่านทางปากอย่างเดียว
(ที่เกาหลีส่วนใหญ่จะเข้าสองทางค่ะ ) หมอไทยก็มีเช่นกัน ที่โด่งดังมีชื่อเสียงได้แก่คุณหมอจรัญ
เพราะคุณหมอเป็นหมอท่านแรกที่คิดค้นวิธีการผ่าตัดลดโหนกแก้มผ่านทางปากคนแรก ของโลก(ถ้าจำไม่ผิด)ค่ะ
สนนราคาของคุณหมอก็ 90,000 บาทค่ะ ส่วนทางเกาหลีจะเน้นวิธีการผ่าตัดเข้าสองทาง
ซึ่งหมอบางท่านก็บอกว่าการผ่าตัดทางจอนผมร่วมด้วยนั้นเป็นวิธีเก่าแล้ว
แต่ในทางกลับกันหลายๆท่านเชื่อว่าการผ่าตัดเข้าทางจอนผม(สำหรับการผ่าตัดที่ เกาหลีจะมีแผลเป็นเล็กมากแค่
3 มิล) ร่วมด้วยนั้นเป็นการลดการกระแทกเนื้อเยื่อต่างๆให้มีการอักเสบและบอบช้ำน้อย เท่าที่สุด
ทำไมหรือค่ะ? เนื่องจากว่าการผ่าตัดโหนกแก้มเป็นการผ่าตัดใหญ่
ฉะนั้นจึงต้องระวังการกระทบกรเทือนเนื้อเยื่อต่างๆ และการที่เราไปเซาะแยกเนื้อเยื่อกับกระดูกมากๆนั้น
ไม่ได้เกิดผลดีสักเท่าไรค่ะ เนื่องจากหลังผ่าตัดนั้น หลายๆคนมีปัญหาเนื้อหย่อนหลังจากที่ยุบโหนกแก้มแล้ว
แต่หมอหลายๆท่านก็แก้ด้วยการยุบโหนกแก้มลงแต่ไม่มากเกินควร 0.5 cm
เพราะเชื่อว่ายิ่งยุบน้อยเท่าไรก็ยิ่งมีผลต่อเนื้อหย่อนน้อยเท่านั้น อันนี้ก็แล้วแต่วิจารณาณนะค่ะ
ว่าจะเชื่อแบบไหน
ภาวะแทรกซ้อนในการผ่าตัดที่อาจจะเกิดขึ้นได้
คือ
- เลือดไหลไม่หยุดและมีอาการบวม
-
การติดเชื้อ
- การไม่สมมาตรของใบหน้า
(ป้องกันได้ด้วยการผ่าตัดอย่างระมัดระวัง ใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัยก็สามารถป้องกันปัญหานี้ได้)
- การบาดเจ็บของเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงส่วนหน้าผาก
ดังนั้นการผ่าตัดเข้าสองทางจึงค่อนข้างจะดีกว่าเพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บ ของเนื้อเยื่อให้น้อยที่สุด
และหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บของเส้นประสาทค่ะ
ทีนี้ถามว่าที่ไทยมีการผ่าตัดแบบไหนบ้าง
ก็ต้องบอกว่ามีทั้งแบบผ่านจอร์นหู กับแบบเข้าในปาก หรือผ่าตัดทั้งจอนหูและในปากร่วมกัน
(ถ้าคิดจะไปปรึกษาคุณหมอที่ไทย ยังไงก็ต้องถามเรื่องนี้ให้เคลียนะค่ะว่าเข้าทางไหนกันแน่
ที่สืบทราบมาคุณหมอจรัญจะผ่าตัดเข้าทางปาก อ้อมีอีกท่านคือคุณหมอจุฑาค่ะ )
และของไทยแท้ต้องติดสกรูค่ะ
จากรูปสกรูสามารถมองเห็นได้ในแผ่นเอ็กซเรย์
จากรูปเป็นฟิล์มเอ็กซเรย์การลดความกว้างของใบหน้า(ลดโหนกแก้ม ตัดกราม ทำวีไลน์) ของ
ID Hospital ซึ่งจะมีสกรูติดค่ะ
ลืมบอกไปว่าคลีนิค Oz clinic
นั้นการลดโหนกแก้มบนใบหน้าจะไม่ติดสกรูค่ะ
ถ้าถามว่าแล้วมีแบบไม่ติดสกรูด้วยหรอค่ะ ขอตอบว่ามีค่ะ
หลายๆคลีนิคในเกาหลีคำนึงถึงข้อเสียข้อนี้ดี
เพราะหลายๆท่านไม่ชอบความรู้สึกที่ว่ามีสิ่งแปลกปลอมมาติดในหน้าของเรา
จึงได้คิดค้นวิธีใหม่เป็นการผ่าตัดแบบไม่ติดสกรู
ทำอย่างไรหรือค่ะ?
คือการทำการตัดส่วนโหนกแก้มส่วนหนึ่งแบบ incomplete คือตัดแต่ไม่หมด
แล้วก็ตัดส่วนที่สามหลังจากนั้นย้ายส่วนที่สามจมเข้าไปในกระดูกด้านข้างๆจอน
ผมทิ้งไว้แบบนั้นโดยที่ไม่ต้องติดเหล็ก ลวดหรือสกรูใดๆ
หลังจากนั้นร่างกายจะสร้างกระดูกมาสมานส่วนที่ไม่มีการเชื่อมเอง ก็เสร็จขั้นตอนค่ะ
ถามว่าแล้วมันดีกว่าหรือเปล่า หมอบางท่านเชื่อว่า (อ้างอิงมาจากคุณหมอ
Hong-Cheol Lim จากคลีนิค Mecca Esthetic Clinic www.psmecca.com )
การที่ไม่ติดสกรูนั้นสามารถลดคามกว้างของโหนกแก้มได้มากกว่าการติดสกรูแน่ นอนค่ะ บาง
และที่สำคัญไม่มีลวด เหล็ก หรือสกรูอยู่บนใบหน้าเราให้กวนใจค่ะ
(เวลาเราไปเอ็กซเรย์ใบหน้าพวกเหล็กลวดอะไรพกนี้เห็นชัดเจนบนฟิล์มเอ็กซเร ย์ค่ะ ) ดูภาพกันเลยนะค่ะ
ว่ามันต่างกับแบบสกรูจริงไหม
จากรูปเปรียบเทียบด้านขวา เป็นการติดสกรู ด้านซ้ายไม่ติดสกรูค่ะ
จะเห็นได้ว่าด้านซ้ายดูแคบกว่าด้านขวาเล็กน้อย สักประมารสองสามมิล
(ถือว่าลดได้เยอะนะค่ะ)
แล้วทีนี้ผลหลังจากผ่าตัดหรือค่ะ บางท่านบอกว่าเวลาคลำ(แบบไม่ติดสกรู)
เราก็จจะเจอปุ่มกระดูกตรงส่วนที่ไม่ได้ต่อกับส่วนสองนะค่ะ เป็นปุ่มเล็กๆนิดเดียวไม่ก่อให้กิดความรำคาญ
ดีกว่าติดสกรูค่ะเพราะไม่อยากไปหาหมอแล้วเจอลวดบนแผ่นเอ็กซเรย์ใบหน้าค่ะ
อันนี้แล้วแต่ชอบนะค่ะ
ส่วนสิ่งที่ต้องระวังนะค่ะคือ Sagging skin
การหย่อนยานของเนื้อหลังจากผ่าตัดลดกระดูกโหนกแก้ม
อันนี้ให้คำนึงถึงวิธีการผ่าตัดให้ดีอย่าให้คุณหมอไปรบกวนหรือแยกเนื้อเยื่อ
กับกระดูกมากไปไม่งั้นอาจจะมีผลหลังผ่าตัดในเรื่องผิวหย่อนค่ะ
บางคนก็บ่นหลังจากผ่าตัดแล้วตอนแรกขอให้หมอลดให้เยอะๆ (บางคลีนิคที่ชาวเกาหลีนิยมไปกันอย่างเช่น
cinderella มักจะตัดลดแบบเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน จนหน้าเล็กเลยค่ะ )
พอผลที่ออกมาคือหน้าเล็กไปเลยแต่ได้แก้มหย่อนเข้ามาเลยอยากเสริมกระดูกโหนก แก้มกลับไป อิอิ
อันนี้พิจารณาคลีนิคดีๆนะค่ะ บางคลีนิคก็ตัดมากเกิน
บางคลินิคทำพอดีๆเพราะเข้าใจเรื่องพวกนี้ดีค่ะ
อีกอันนึงคือ ความสมดุลระหว่างหน้าด้านขวากับซ้าย อย่างที่เกริ่นไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าคุณหมอ
Park จาก IDhospital จะเชี่ยวชาญด้านนี้ค่ะ
ส่วนวิธีลดการบวมก็หาอ่านได้จากการลดอาการบวมหลังจากผ่าตัดเสริมจมูกค่ะ
ขอปิดประเด็นเรื่องผ่าตัดโหนกแก้มนะค่ะ
ยังไงถ้าสนใจคลีนิคไหนก็หาอ่านได้หลังบทความด้านล่างนะค่ะ เดี่ยวจะเอารายชื่อคลีนิคมาแนะนำกัน
ขอเครดิตรูปภาพใก้กับคุณหมอพาร์ค จากคลีนิค ozclinic มา
ณที่นี้ด้วยนะค่ะ
---------------------------------------------------------
เอ้าคลิปผ่าตัด ทุบโหนก เผื่อใครยังไม่เคยดู
คำเตือนใจไม่ถึงอย่าดู