โดนัลด์ ทรัมป์ เข้าพิธีสาบานรับตำแหน่ง เผย "อเมริกาต้องมาก่อน"

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกา ที่อาคารรัฐสภา กรุงวอชิงตันดีซี พร้อมผลักดันนโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" โดยมีบุคคลสำคัญทั้งในสหรัฐและต่างประเทศ เข้าร่วมเป็นสักขีพยานจำนวนมาก

เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2560 เวลา 12.01 น. ตามเวลาสหรัฐอเมริกา หรือเวลา 00.01 น. วันที่ 21 มกราคม 2560 ตามเวลาในประเทศไทย ที่อาคารรัฐสภา กรุงวอชิงตันดีซี นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกา โดยมีสมาชิกในครอบครัวยืนให้กำลังใจบนเวทีโดย นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวขอบคุณประธานาธิบดีทุกคนที่ผ่านมา และขอบคุณประชาชนทุกคน รวมถึงยังได้กล่าวของคุณ นายบารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีที่เพิ่งหมดวาระลง

นายโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวสุนทรพจน์หลังการสาบานตนรับตำแหน่งโดยมีสาระสำคัญคือ การผลักดันนโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" โดยการตัดสินใจด้านการค้า ภาษี ประเด็นคนเข้าเมือง และกิจการต่างประเทศจะต้องเอื้อประโยชน์ต่อแรงงานชาวสหรัฐและครอบครัวชาวอเมริกัน ทำให้อเมริกากลับมาภาคภูมิ ปลอดภัย และยิ่งใหญ่อีกครั้ง นำสหรัฐกลับสู่ความยิ่งใหญ่พร้อมให้อำนาจกลับคืนสู่ประชาชนทุกคน กวาดล้างกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงให้หมดสิ้นไปจากโลก โดยสหรัฐจะกระชับความสัมพันธ์กับพันธมิตรเก่า ดึงการลงทุน การใช้จ่ายงบกลาโหมกลับสู่ประเทศ โดยรัฐบาลสหรัฐจะเป็นผู้กำหนดทิศทางของอเมริกาและของโลกในเวลาอีกหลายๆปี กระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงานครั้งใหญ่ ด้วยการก่อสร้างสาธารณูปโภคทั่วสหรัฐ โดยรัฐบาลจะดำเนินการด้วยกฎง่ายๆเพียง 2 ข้อคือ ซื้อสินค้าอเมริกัน และจ้างชาวอเมริกัน

โดยพิธีสาบานตนในครั้งนี้ มีบุคคลสำคัญทั้งในสหรัฐและต่างประเทศ เข้าร่วมเป็นสักขีพยานจำนวนมาก นอกจากนายบารัค โอบามาผู้นำสหรัฐที่เพิ่งพ้นตำแหน่ง และนางมิเชล ภริยา แล้วยังมีอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช และนางรอลา ภริยา อดีตประธานาธิบดีจิมมี่ คาร์เตอร์ และอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน และนางฮิลลารี คลินตัน  ภริยา คู่แข่งคนสำคัญที่แพ้การเลือกตั้งให้กับทรัมป์ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2559 และมีประชาชนราว 800,000 - 900,000 เข้าร่วมพิธี เต็มถนนเพนซิลเวนีย

ทั้งนี้ก่อนพิธีสาบานตนจะเริ่มขึ้น มีกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านทรัมป์หลายร้อยคน รวมตัวกันในกรุงวอชิงตัน โดยแต่ละคนสวมชุดสีดำและมีหมวกคลุมศีรษะ และเคลื่อนเข้าใกล้บริเวณจัดงานพิธี แต่ถูกเจ้าหน้าที่ที่ระดมกำลังรักษาความสงบสกัดกั้น จนเกิดการปะทะกันประปราย มีการจุดไฟเผารถลีมูซีน และทุบกระจกอาคาร